รวบสาวลาวขนยาอี ‘ตุ๊กตามอลลี่’ กว่า 1.3 แสนเม็ด ผ่านสะพานมิตรภาพฯ 1 มูลค่าพุ่ง 55 ล้านบาท
หนองคาย – เจ้าหน้าที่บูรณาการร่วม สกัดจับ น.ส.น้ำหวาน เกตุบุญจัน ชาวลาว ขณะขับรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 พบยาอีรูปแบบใหม่ ลักษณะเป็นเม็ดรูปตุ๊กตามอลลี่ สีสันสดใสกว่า 1.3 แสนเม็ด มูลค่าสูงถึง 55 ล้านบาท เจ้าตัวสารภาพรับจ้างขนแลกค่าเหนื่อยเพียง 10,000 บาท
วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติงานของส่วนสกัดกั้น ศุลกากรภาคที่ 2 โดยศุลกากรจังหวัดหนองคาย ที่ได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทำการตั้งจุดตรวจและตรวจสอบการผ่านเข้า-ออก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
การปฏิบัติงานครั้งนี้ นำไปสู่การตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กล 1609 กำแพงนคร (เป็นทะเบียนของประเทศลาว) ขณะกำลังขับเข้ามาในสถานีตรวจรถยนต์ส่วนบุคคลฝั่งขาเข้าของประเทศไทย โดยรถคันดังกล่าวมี น.ส.น้ำหวาน เกตุบุญจัน อายุ 23 ปี สัญชาติลาว เป็นผู้ขับขี่ ด้วยท่าทีที่แสดงความพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด
จากการตรวจค้นภายในรถ เจ้าหน้าที่ได้พบวัตถุต้องสงสัยจำนวนมากบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส วางซุกซ่อนอยู่ เมื่อนับจำนวนถุงพบว่ามีทั้งหมด 139 ถุง และเมื่อทำการนับเม็ดยาโดยประมาณ พบว่ามีจำนวนสูงถึง 137,000 เม็ด ซึ่งคาดการณ์มูลค่าในตลาดมืดสูงถึงประมาณ 55 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ได้นำวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวมาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผลการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือ ยาอี (Ecstasy) แต่ที่น่าตกใจคือรูปแบบของยาเสพติดชนิดนี้มีความแตกต่างไปจากเดิม โดยมีลักษณะเป็นเม็ด ขึ้นรูปเป็นตัวตุ๊กตาชื่อดัง ‘มอลลี่’ (Molly) ที่กำลังเป็นที่นิยม มีสีสันหลากหลาย ทั้งสีส้ม สีม่วง และสีเขียว การพบยาอีในรูปแบบดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความพยายามของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะวัยรุ่นและเยาวชนได้ง่ายขึ้น
ภายหลังการตรวจยึดยาเสพติดและรถยนต์ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.น้ำหวาน เกตุบุญจัน พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น น.ส.น้ำหวาน เกตุบุญจัน ให้การรับสารภาพว่า ได้มีชายชาวลาวคนหนึ่งซึ่งรู้จักกัน ได้ว่าจ้างให้ตนเองขับรถยนต์คันดังกล่าว โดยมีของกลางยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ นำมาส่งที่บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย โดยจะมีบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งมารอรับสินค้าดังกล่าว และเมื่อตนเองเดินทางกลับประเทศลาวเรียบร้อยแล้ว ชายคนดังกล่าวจะจ่ายเงินค่าจ้างให้เป็นจำนวน 10,000 บาท
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง กล่าวเน้นย้ำว่า การจับกุมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความเข้มแข็งของหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการสัญจรข้ามแดนจำนวนมากอย่างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว และการพบยาเสพติดในรูปแบบใหม่นี้ถือเป็นข้อเตือนใจให้ทุกฝ่ายต้องเฝ้าระวังและติดตามรูปแบบการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าถึงประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนได้