กทม. สั่งคุมเข้ม “ยาอีลาบูบู้” หลังคร่า 2 ชีวิต พบฤทธิ์ร้ายแรงผสมคีตามีนอันตราย
กรุงเทพมหานคร – เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศอ.ปส.กทม.) ครั้งที่ 4/2568 เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานและหารือแนวทางการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ประเด็นสำคัญที่ถูกยกขึ้นมาหารืออย่างเร่งด่วนในที่ประชุมครั้งนี้ คือสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดรูปแบบใหม่ที่แฝงตัวมาในลักษณะที่อาจทำให้การระบาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติดที่เรียกกันในกลุ่มผู้ใช้ว่า “ขนม” หรือ “ยาอีลาบูบู้” ซึ่งปรากฏขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาและสร้างความกังวลอย่างยิ่ง
ข้อมูลจากที่ประชุมระบุว่า พบผู้ป่วยจำนวน 3 ราย ที่มีอาการหมดสติ กล้ามเนื้อเกร็ง หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น หลังเข้าร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ในกรุงเทพฯ โดยทั้งสามรายมีความเชื่อมโยงกับการใช้สารเสพติดชนิดนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ “ตุ๊กตาลาบูบู้” อันเป็นที่นิยม
น่าเศร้าที่ในจำนวนผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 2 ราย ขณะที่อีก 1 รายยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติและต้องรักษาตัวอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู เหตุการณ์ดังกล่าวตอกย้ำถึงความร้ายแรงและอันตรายถึงชีวิตของ “ยาอีลาบูบู้” ชนิดนี้ ซึ่งจำเป็นต้องเร่งหามาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังยาเสพติดชนิดอื่นๆ ในพื้นที่
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวเน้นย้ำว่า ลักษณะรูปลักษณ์ที่เหมือนกับ “ตุ๊กตาลาบูบู้” อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยาเสพติดชนิดนี้มีแนวโน้มที่จะระบาดได้ง่ายในกลุ่มเยาวชนและผู้ที่ชื่นชอบตัวการ์ตูน จึงต้องเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
จากการตรวจพิสูจน์โดยสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด พบว่า “ยาอีลาบูบู้” ชนิดนี้มีส่วนผสมของสารอันตรายหลายชนิด ได้แก่ MDMA หรือ ยาอี (Ecstasy), คีตามีน (Ketamine) และ กาเฟอีน (Caffeine) ที่น่ากังวลคือ พบสารออกฤทธิ์หลัก MDMA ในปริมาณความเข้มข้นสูง และมีการผสมคีตามีน ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการทางการแพทย์แต่ถูกนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์เพื่อการเสพติด เมื่อผสมกับ MDMA จะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของฤทธิ์ยา และการมีส่วนผสมของกาเฟอีนก็ยิ่งไปเสริมการออกฤทธิ์ ทำให้ยาเสพติดชนิดนี้มีอันตรายถึงชีวิตมากกว่ายาอีทั่วไป
ศอ.ปส.กทม. จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัย และร่วมกันดำเนินการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของ “ยาอีลาบูบู้” ชนิดนี้อย่างเข้มข้น พร้อมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ให้ตระหนักถึงอันตรายร้ายแรงของยาเสพติดรูปแบบใหม่นี้ และขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นผู้ที่น่าสงสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดชนิดนี้ หรือมีข้อมูลใดๆ ที่เป็นประโยชน์ในการปราบปราม สามารถแจ้งเบาะแสได้ทันที เพื่อช่วยกันป้องกันไม่ให้ยาเสพติดร้ายแรงนี้ทำลายชีวิตและสังคม
ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด รวมถึงการทำงานเชิงรุกในชุมชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและลดปัจจัยเสี่ยงต่อการใช้ยาเสพติด โดยเน้นย้ำการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานด้านสาธารณสุข สังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดในกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน