กระทรวงแรงงาน ลุยตรวจเข้ม ‘แรงงานต่างด้าว’ ย่านห้วยขวาง-จตุจักร พบผิดกฎหมายพร้อมดำเนินคดี ‘นายจ้าง’ ย้ำปกป้องโอกาสคนไทย

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการป้องกันและปราบปรามแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมายในประเทศไทย ว่า กระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญสูงสุดในการคุ้มครองโอกาสการมีงานทำของพี่น้องแรงงานไทย และพร้อมเดินหน้าปราบปรามแรงงานข้ามชาติที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

“ผมได้สั่งการให้ อธิบดีกรมการจัดหางาน จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการและแหล่งที่มีแรงงานต่างชาติหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การป้องกันไม่ให้แรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมายเข้ามาแย่งอาชีพหรือโอกาสการทำงานของคนไทย และสร้างมาตรฐานการจ้างงานที่เป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบแรงงานต่างชาติใน 2 จุดสำคัญของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ บริเวณตลาดนัดจตุจักร และย่านห้วยขวาง

จุดที่ 1: ตลาดนัดจตุจักร
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแรงงานต่างชาติจำนวน 25 คน ที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบผู้กระทำผิดกฎหมายถึง 3 ราย โดยแบ่งเป็น การทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2 ราย และทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ได้รับอนุญาตในใบอนุญาตทำงาน จำนวน 1 ราย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ดำเนินการดำเนินคดีกับนายจ้างที่เกี่ยวข้องกับการจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายทั้ง 2 รายตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว

จุดที่ 2: ร้านอาหารย่านห้วยขวาง
ชุดปฏิบัติการได้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการประเภท ร้านอาหาร จำนวน 12 แห่งในย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นแหล่งที่มีแรงงานต่างชาติทำงานจำนวนมาก จากการตรวจสอบแรงงานต่างชาติทั้งสิ้น 60 คนที่พบในสถานประกอบการเหล่านี้ ปรากฏว่าแรงงานทุกคนมีเอกสารการทำงานและเอกสารการเข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่จะดำเนินการขยายผลการตรวจสอบและสุ่มตรวจในพื้นที่ต่างๆ อย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้เกิดธุรกิจในลักษณะนอมินีหรือการแฝงตัวของแรงงานผิดกฎหมาย

นายพิพัฒน์ กล่าวย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงแรงงานว่า จะไม่ปล่อยให้ปัญหาแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเป็นบ่อนทำลายโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และขอความร่วมมือจากนายจ้างและเจ้าของสถานประกอบการทั่วประเทศ ให้ปฏิบัติตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นนายจ้างหรือแรงงานต่างชาติ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ด้าน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้กล่าวเสริมถึงบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิดตามกฎหมายว่า คนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานผิดประเภทจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาต จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท และอาจถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักรและห้ามขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยเป็นเวลาถึง 2 ปี ส่วนนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานไม่ตรงตามเงื่อนไข จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และอาจถูกห้ามจ้างคนต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี

อธิบดีกรมการจัดหางานยังได้เชิญชวนประชาชนที่พบเห็นการจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย หรือมีเบาะแส สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กรมการจัดหางาน โทรศัพท์ สายด่วน 1506 กด 2 หรือ สายด่วน 1694 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด รวมถึงสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1–10 ทั่วประเทศ ทั้งนี้ กรมการจัดหางานขอย้ำจุดยืนสำคัญว่า แรงงานต่างชาติต้องอยู่ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย และคนไทยต้องไม่ถูกแย่งงานอันเป็นสิทธิที่พึงได้รับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *