กรุงเทพฯ – นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน นำข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงานที่ได้เสนอต่อรัฐบาลเมื่อวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ไปพิจารณาและดำเนินการตามภารกิจที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน

นายภูมิพัฒน์ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ย้ำว่า มีหลายเรื่องที่กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การเสนอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อนำไปสู่การรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 และ 98 รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียน ของกระทรวงแรงงาน การศึกษารูปแบบกองทุนประกันความเสี่ยงกรณีเลิกจ้าง และอีกหลายเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยเฉพาะการปรับปรุงสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกันตนและการสร้างความยั่งยืนของกองทุนประกันสังคมในอนาคต

โฆษกกระทรวงแรงงานยังกล่าวอีกว่า ในปีนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบของขวัญวันแรงงานให้ทั้งแก่นายจ้างและลูกจ้าง โดยนำศักยภาพของกองทุนประกันสังคมมาใช้ คือ โครงการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนอาชีพ ดอกเบี้ยต่ำ

สำหรับกลุ่มลูกจ้าง หรือแรงงานอิสระ ที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 หรือ 40 และต้องการพัฒนาอาชีพเสริม หรือตั้งต้นธุรกิจของตนเอง สามารถยื่นขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ภายใต้วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท ที่สำนักงานประกันสังคมได้จัดเตรียมไว้

ส่วนกลุ่มนายจ้าง ที่ต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อประคับประคองกิจการและรักษาการจ้างงานในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน สามารถยื่นขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียง 2.35% ต่อปี คงที่ 3 ปี ภายใต้วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท โดยกระทรวงแรงงานกำลังเร่งผลักดันโครงการนี้ร่วมกับธนาคารพันธมิตร และจะประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์ให้ประชาชนทราบในเร็วๆ นี้

“ท่านพิพัฒน์และกระทรวงแรงงานไม่เคยนิ่งนอนใจต่อข้อเรียกร้องต่าง ๆ ของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และพยายามผลักดันนโยบายในทุกมิติ ทั้งในด้านการจ้างงาน การบังคับใช้กฎหมายแรงงาน การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน การสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิต รวมทั้งความปลอดภัยในการทำงาน” นายภูมิพัฒน์ กล่าวและทิ้งท้ายว่า “จึงขอให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานเชื่อมั่นว่า กระทรวงแรงงานจะทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ใช้แรงงาน และยกระดับกระทรวงแรงงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้”