รมว.แรงงาน ตั้ง ‘คณะทำงาน-5 กฎเหล็ก’ คุมเข้มความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุสะพานพระราม 2 ซ้ำ
กรุงเทพฯ – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “วันความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ” เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ณ กระทรวงแรงงาน ถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่โครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ซึ่งสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อติดตามสถานการณ์และออกมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
คณะทำงานชุดนี้ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นที่ปรึกษา โดยมีเรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญร่วมเป็นคณะทำงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ได้เชิญผู้ประกอบการและผู้รับเหมา ทั้งรายใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะไซต์ก่อสร้างต่างๆ เข้ามาร่วมหารือเพื่อหาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในพื้นที่พระราม 2 ซึ่งที่ผ่านมากสร. ได้มีการลงพื้นที่ตรวจไซต์งานก่อสร้างมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 22 เมษายน และ 25 เมษายน ที่ผ่านมา
จากการหารือและประเมินสถานการณ์ กระทรวงแรงงานได้กำหนด “กฎเหล็ก 5 ประการ” สำหรับไซต์งานก่อสร้าง เพื่อยกระดับความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ ดังนี้
- กำหนดเขตก่อสร้างและเขตอันตรายชัดเจน: ต้องมีการแบ่งพื้นที่การทำงานและพื้นที่เสี่ยงอันตรายอย่างชัดเจน พร้อมป้ายเตือนที่เห็นได้ง่าย
- ออกแบบโครงสร้างรับน้ำหนักตามหลักวิศวกรรม: การออกแบบส่วนรองรับน้ำหนักหรือโครงสร้างชั่วคราวต่างๆ ต้องคำนึงถึงหลักการทางวิศวกรรมอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- ตรวจสอบเครื่องจักรหนักตามมาตรฐาน: เครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในงานก่อสร้างต้องได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
- ควบคุมดูแลโดยผู้รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด: ต้องมีผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ควบคุมดูแลการทำงานในไซต์งานอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพื่อให้เป็นไปตามแผนและมาตรการความปลอดภัย
- ลูกจ้างต้องใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน: นายจ้างต้องจัดหาและกำกับดูแลให้ลูกจ้างทุกคนสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) อย่างครบถ้วนขณะปฏิบัติงาน
นายพิพัฒน์ ย้ำว่า มาตรการเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดอุบัติเหตุในไซต์งานได้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก แม้ได้ปฏิบัติตามกฎเหล่านี้แล้ว ก็จำเป็นต้องมีการประชุมเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการก่อสร้างโดยตรง แต่เป็นส่วนของโครงสร้างสะพานเดิมที่อาจมีการชำรุด เช่น กรณีเศษปูนร่วงใส่รถจนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งอาจเกิดจากการเสียหายของปูนหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โครงสร้างที่สร้างมานานเกิดสนิม แผ่นปูนแยกตัว หรือการสั่นสะเทือนจากการสัญจรของรถบรรทุกหนัก
เพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้ กระทรวงแรงงานจะประสานขอความร่วมมือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ให้ช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของสิ่งก่อสร้างเดิมที่ใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว หากพบส่วนที่แตกร้าวหรือชำรุด ให้รีบดำเนินการปิดซ่อมแซมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำ
ท้ายที่สุด นายพิพัฒน์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ และประชาชน หากพบเห็นสิ่งผิดปกติในพื้นที่ก่อสร้างหรือโครงสร้างสาธารณะ ขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขต่อไป การป้องกันคือการกระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบ การระมัดระวัง และการอยู่ในกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น