สส.กฤษฎิ์ ยอมรับเป็ฯคนอัดคลิปคุย ‘เท้ง ณัฐพงษ์’ หัวหน้าพรรคประชาชน อ้างเพื่อนำมาปรึกษากับทีมงาน ตีมึน ไม่รู้ใครปล่อยออกสื่อ ปัดหักหลังประชาชน ยันอุดมการณ์ยังอยู่ ขอพรรคขับพ้นสมาชิกภาพเอง

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 จากกรณี น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้สังกัดพรรคประชาชน ได้ออกมาแถลงประกาศแยกทางกับพรรคประชาชน โดยให้เหตุผลว่ามีทัศนคติที่ไม่ตรงกันและไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคได้อย่างราบรื่น ก่อนที่ต่อมาจะมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.กฤษฎิ์ กับ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน เนื้อหาในคลิปเป็นไปในทำนองที่ น.ส.กฤษฎิ์ ระบายความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพรรค ถูกแบ่งแยก และยังมีการทาบทามบุคคลอื่นให้ลงสมัคร สส. ในพื้นที่ของตน รวมถึงเปรยถึงความต้องการที่จะไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคกล้าธรรม

ล่าสุด น.ส.กฤษฎิ์ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ในรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ซึ่งดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยยอมรับว่ามีความเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนถึงขั้นนอนไม่หลับ และโดยส่วนตัวแล้วอยากให้พรรคประชาชนมีมติขับตนเองออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปเลย

สำหรับประเด็นเรื่องที่เพื่อนร่วมพรรคไม่ให้ความสำคัญนั้น น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องรอง ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะตั้งแต่แรกที่ตัดสินใจเข้าสู่การเมืองและร่วมงานกับพรรค ได้พูดคุยกับพรรคอย่างชัดเจนว่าเหตุผลหลักคือต้องการผลักดันเรื่องท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นงานที่ตนเองทำมาโดยตลอดก่อนที่จะมาเป็น สส. และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ก้าวเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร ทุกคนในพรรคทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี

น.ส.กฤษฎิ์ ยอมรับว่า การที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็น สส. นั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสของพรรคก้าวไกล (ซึ่งเป็นพรรคต้นกำเนิดก่อนการเปลี่ยนแปลงมาเป็นพรรคประชาชน) เนื่องจากประชาชนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จักตนมากนัก นอกเหนือจากกลุ่มนักธุรกิจที่ทำงานด้วยกันมา ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสพรรคมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม น.ส.กฤษฎิ์ ยืนยันว่าในเวลานี้จะไม่สามารถพูดได้ว่าตนเองหักหลังประชาชน เพราะตนยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประชาชน และพร้อมที่จะยืนยันในอุดมการณ์ โดยได้อ้างถึงคลิปที่ตนเองเคยอัดเพื่อยืนยันจุดยืนในช่วงเวลาที่พรรคก้าวไกลกำลังถูกพิจารณายุบพรรค ซึ่งตนไม่ได้ลบคลิปดังกล่าว เพราะช่วงนั้นมีกระแสข่าวว่าตนเป็น “งูเห่า” ซึ่งไม่ทราบว่าข่าวลือนี้มาจากคนในหรือคนนอกพรรค แต่เมื่อสอบถามไปยังพรรค ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่ใช่คนในพรรค

น.ส.กฤษฎิ์ ยังคงยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่ว่าทางพรรคมีการทาบทามบุคคลอื่นให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. แทนตนในพื้นที่ ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นของ “การให้เกียรติ” เพราะตนเองก็ได้ทุ่มเททำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด

ส่วนประเด็นที่ว่าถูกทางพรรคกีดกันหรือแบ่งพวก ตามที่ปรากฏในคลิปเสียงที่สนทนากับนายณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชนนั้น น.ส.กฤษฎิ์ ชี้แจงว่า ถูกทางพรรคกีดกันในหลายๆ เรื่อง และจริงๆ แล้วตนไม่อยากพาดพิงถึงเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่าคลิปดังกล่าว “หลุดออกมาโดยที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจให้มันหลุด” เพราะเห็นว่าเนื้อหาในคลิปนั้นไม่เหมาะสมและดูไม่ดี ซึ่งตนยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เป็นคนอัดคลิปเสียงการสนทนานั้นด้วยตนเอง

“กฤษฎิ์อัดเอง กฤษฎิ์ ยอมรับ ก็อัดโทรศัพท์นี่แหละ ตรงนี้จะโดนเป็นกระแสอะไรก็ว่าไป ถูก อัดเองเพื่อเอามาปรึกษาทีมงานว่าเราจะเดินต่อไปยังไง แต่กฤษฎิ์ไม่ได้ปล่อย” น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวและเสริมว่าตนเองต้องส่งคลิปดังกล่าวไปให้ที่ปรึกษาและทีมงานเพื่อหารือแนวทางต่อไป “ถูก กฤษฎิ์ก็ต้องส่งไปให้ที่ปรึกษาไหม กฤษฎิ์จะทำยังไงต่อ ทีมงานอย่างนี้”

เมื่อนายสรยุทธ ตั้งคำถามแย้งว่า “แต่มันอยู่เครื่องคุณไง” น.ส.กฤษฎิ์ ก็ยอมรับว่าใช่ แต่ก็ยืนยันว่าไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำคลิปไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ และตั้งคำถามกลับว่า หากเป็นตนเองที่ปล่อยคลิปนี้จริง จะได้ประโยชน์อะไร ทั้งที่ในคลิปมีคำพูดที่พาดพิงถึงบุคคลอื่นจำนวนมาก และมีคำพูดที่ไม่เหมาะสม ไม่สุภาพปะปนอยู่ด้วย