กรุงเทพฯ – นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เร่งประชาสัมพันธ์และเตรียมความพร้อมมาตรการควบคุมการจุดและปล่อยวัตถุอันตรายขึ้นสู่อากาศ ในช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟ ซึ่งโดยปกติจะจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดของการเดินอากาศและผู้โดยสารทุกคน.

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันรูปแบบการจัดงานบุญบั้งไฟได้เปลี่ยนแปลงไป มีการแข่งขันเพื่อจุดบั้งไฟให้มีความสูงมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเส้นทางการบินของอากาศยาน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด.

ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเสริมว่า ได้กำชับให้ท่าอากาศยานในสังกัดทุกแห่ง ดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้น เพื่อขอความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้งดการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นสู่ท้องฟ้าในพื้นที่สำคัญ ได้แก่ เขตปลอดภัยในการเดินอากาศ, พื้นที่เสี่ยงตามแนวขึ้นลงของเครื่องบิน และบริเวณโดยรอบท่าอากาศยานโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง.

นายดนัย ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุเหล่านี้ในปัจจุบันยังเป็นเรื่องยาก การจุดและปล่อยโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการมองเห็นของนักบินและโครงสร้างของอากาศยาน ดังนั้น ผู้ที่ประสงค์จะทำการจุดบั้งไฟ จะต้องดำเนินการขออนุญาตอย่างเป็นทางการกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นประจำตำบล อำเภอ หรือจังหวัดก่อน.

ภายหลังจากได้รับคำร้อง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีหน้าที่แจ้งหนังสือขออนุญาตดังกล่าวให้ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้เคียงทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 – 15 วันทำการ โดยเอกสารจะต้องระบุข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ผู้ประสานงาน พร้อมพิกัดการปล่อยบั้งไฟอย่างละเอียดในรูปแบบละติจูด ลองจิจูด (latitude longitude) เพื่อให้กรมท่าอากาศยานนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการออกประกาศแจ้งเตือนนักบิน หรือ NOTAM (Notice To Airmen) และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศเฝ้าระวังและติดต่อประสานงานกับผู้จุดบั้งไฟได้ตลอดเวลาที่มีการจุดและปล่อย.

กรมท่าอากาศยานยังได้เน้นย้ำถึงบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งถือเป็นความผิดทางกฎหมาย โดยมีบทลงโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.

สำหรับประเพณีบุญบั้งไฟเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสานที่จัดขึ้นในช่วงเดือน 6 หรือประมาณเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูฝน โดยมีความเชื่อเพื่อเป็นการบูชาพญาแถน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าบันดาลให้ฝนตกสำหรับการเพาะปลูก ซึ่งในปี 2568 นี้ มีกำหนดจัดงานในหลายจังหวัด อาทิ นครพนม (9 – 10 พ.ค.), อุดรธานี (10 – 12 พ.ค.), หนองคาย (11 – 14 พ.ค.), สกลนคร (12 – 18 พ.ค.), ยโสธร (16 – 18 พ.ค.), เลย (17 – 19 พ.ค.), กาฬสินธุ์ (17 – 18 พ.ค.), ร้อยเอ็ด (16 – 18 พ.ค.) และศรีสะเกษ (18 – 24 พ.ค.). การปฏิบัติตามกฎระเบียบจึงเป็นหัวใจสำคัญเพื่อให้ประเพณีนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยต่อส่วนรวม.