กองกำลัง KNLA ยึดยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 6 ล้านเม็ด บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เร่งคุมเข้มแนวชายแดน
แม่ฮ่องสอน – กองกำลังติดอาวุธชาวกะเหรี่ยง KNLA ในรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับชายแดนไทยในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดครั้งใหญ่ สามารถตรวจยึดยาบ้าได้มากถึงกว่า 6,000,000 เม็ด พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาได้บางส่วน แหล่งข่าวระบุยาเสพติดดังกล่าวเชื่อมโยงกับเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธและสภาทหารเมียนมา และมีการลักลอบขนในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนต้องเพิ่มมาตรการกวดขันอย่างเข้มงวด
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 แหล่งข่าวจากกองกำลัง KNLA เปิดเผยถึงปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นบริเวณเขตจังหวัดผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา พื้นที่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแนวชายแดนไทย ตรงข้ามกับอำเภอสบเมย โดยเฉพาะบริเวณบ้านแม่สามแลบ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
แหล่งข่าวให้รายละเอียดว่า เมื่อประมาณวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา กองกำลังของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กองพลที่ 7 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ได้ทำการตรวจจับเรือยนต์ต้องสงสัยลำหนึ่งขณะลำเลียงยาเสพติดลงมาตามแม่น้ำสาละวิน และถูกสกัดได้ที่บริเวณแม่น้ำเมย ซึ่งอยู่ในเขตปฏิบัติการของ KNU ยาเสพติดล็อตนี้ถูกลักลอบขนมาจากพื้นที่ตอนบนของแม่น้ำสาละวิน และมีเป้าหมายหลักที่จะส่งต่อไปยังตอนใต้ของเมืองแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเทศไทย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดนเมียนมา
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุอีกว่า ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่ของ KNU/KNLA ยังสามารถตรวจยึดยาเสพติดได้อีกจำนวนหนึ่งที่บริเวณด่านตรวจภายในพื้นที่มาเนอปลอ ยาเสพติดชุดนี้ถูกลำเลียงมาจากฝั่งผ่าซองของเมียนมา และคาดว่าจะมีการส่งผ่านเส้นทางแม่สะเรียง เพื่อเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศเมียนมาเอง ไม่ได้มุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงในล็อตนี้ แต่แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของการค้ายาเสพติดในพื้นที่
ยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่ถูกยึดได้ในครั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทหารกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) และเครือข่ายของสภาทหารเมียนมา (หรือเรียกโดยทั่วไปว่า กองทัพเมียนมา) เป็นที่น่าสังเกตว่า การลำเลียงยาเสพติดในลักษณะดังกล่าวนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่าเคยเกิดขึ้นแล้วอย่างน้อยสามครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำเบื้องต้น กัปตันเรือต้องสงสัยที่ถูกจับกุมพร้อมกับลูกเรือ (มีผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน ถูกควบคุมตัวได้ 2 คนในครั้งนี้) ให้การว่า พวกเขาอ้างตัวหรือใช้ชื่อขององค์กรต่อต้านเผด็จการเมียนมา เพื่อเป็นเครื่องกำบังในการลักลอบลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าเป็นของที่ใช้ในภารกิจขององค์กรต่อต้านเผด็จการ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องประเมินว่า ยาเสพติดที่จับได้นี้ มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับเครือข่ายสภาทหารเมียนมา และโดยปกติแล้ว เมื่อยาเสพติดถูกลำเลียงมาถึงฝั่งตอนใต้ของแม่สะเรียงในประเทศไทยแล้ว จะมีรถยนต์มารอรับเพื่อกระจายเข้าสู่พื้นที่ตอนในทันที สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการใช้เส้นทางและกลไกที่หลากหลายในการค้ายาเสพติดข้ามชาติ
การลักลอบขนยาเสพติดโดยอ้างว่าเป็นภารกิจขององค์กรต่อต้านเผด็จการเมียนมา ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนทวีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ด่านตรวจของ KNU/KNLA ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ต้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและความเข้มงวดในการตรวจสอบสิ่งของและบุคคลที่ผ่านเข้าออกอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดจำนวนมหาศาลเหล่านี้เล็ดลอดเข้าสู่ประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคได้
ปฏิบัติการครั้งนี้ของกองกำลัง KNLA ถือเป็นความสำเร็จในการสกัดกั้นยาเสพติดล็อตใหญ่ ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสังคม และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการประสานงานและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวชายแดนเพื่อต่อสู้กับปัญหาการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่เชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธและเครือข่ายอาชญากรรมในพื้นที่