กล้าธรรม เดือด! โต้ปมเงิน 55 ล้าน จ่อร้องสอบจริยธรรม สส.พรรคประชาชน ชี้อย่าพูดลอยๆ ตีกินการเมือง

นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ปฏิเสธ allegation ว่าพรรคเสนอเงิน 55 ล้านบาทให้ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน พร้อมเตรียมยื่นเรื่องสอบจริยธรรม สส.คนดังกล่าว ที่ไม่เปิดเผยแหล่งที่มาของเงินที่ถูกเสนอให้ โดยนายไผ่ยังระบุว่า การพูดเช่นนี้เป็นการตีกินทางการเมือง และยืนยันว่าพรรคกล้าธรรมกำลังมีอดีต สส. และนักการเมืองจำนวนมากเตรียมย้ายเข้าสังกัด โดยไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อตัว

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดกำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สส.จังหวัดชลบุรี จากพรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองเคยถูกพรรคการเมืองหนึ่งเสนอเงินจำนวน 55 ล้านบาท เพื่อชักจูงให้ย้ายพรรค หรือที่เรียกกันว่า ‘งูเห่า’ ซึ่งมีการเชื่อมโยงว่าอาจจะเป็นพรรคกล้าธรรม

นายไผ่ กล่าวว่า สส.คนดังกล่าวเคยพูดเรื่องนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกพูดแล้วเงียบไป แต่ครั้งล่าสุดกลับนำไปพูดบนเวทีปราศรัย ซึ่งตนต้องตั้งคำถามว่า กรณีเช่นนี้เข้าข่ายการติดสินบนเจ้าพนักงานหรือไม่ และเหตุใดเมื่อตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กลับไม่ออกมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าผู้เสนอเงินคือใคร แต่กลับเลือกที่จะพูดแบบลอยๆ โดยไม่มีการนำหลักฐานมาแสดง และไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายต่อ

เลขาธิการพรรคกล้าธรรม กล่าวอย่างดุเดือดว่า “อย่าพูดแค่ให้ดูหล่อว่าตัวเองมีค่าถึง 50 ล้านบาท ผมคิดว่าไม่จริง ตั้งแต่เล่นการเมืองมา ไม่มีแบบนี้ อาจจะมี เคยมีหรือไม่ผมไม่รู้ แต่ตัวเลขมันไม่ใช่แล้ว”

นายไผ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังให้ทีมกฎหมายของพรรคยกร่างคำร้อง เพื่อเตรียมยื่นต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของ สส. รายดังกล่าว เพราะการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐถูกยื่นข้อเสนอที่เข้าข่ายการติดสินบน แต่กลับปกป้องและไม่ยอมเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อเสนอดังกล่าว ตนมองว่าเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิด และกำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเพิ่มเติมว่าจะสามารถดำเนินคดีหรือดำเนินการทางกฎหมายในด้านอื่นได้อีกหรือไม่ ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้มีการ “ตีกินทางการเมือง” หรือสร้างกระแสเพื่อหวังผลทางการเมืองจากเรื่องนี้แบบไม่มีมูลความจริง

เมื่อถูกถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน จะย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรม นายไผ่ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่สามารถนำไปเชื่อมโยงกับกระแสเรื่องเงินจำนวน 55 ล้านบาทได้เลย เพราะกรณีของ น.ส.กฤษฎิ์ เกิดจาก “สนิมใน” คือเป็นปัญหาภายในของพรรคเดิม ซึ่งตนไม่อยากลงรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อยากนำมาเชื่อมโยงกัน

นายไผ่ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ น.ส.กฤษฎิ์ อาจพิจารณาย้ายมาพรรคกล้าธรรมนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความสนิทสนมกับบุคคลในพรรค และจากการได้เห็นผลงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่สามารถลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจ “เข้าตา” ของ สส. เราคงไม่ไปแข่งนโยบายกับใคร

ส่วนกรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยันว่าจะไม่ขับ น.ส.กฤษฎิ์ ออกจากพรรค นายไผ่ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับ น.ส.กฤษฎิ์ โดยตรง แต่หากทางพรรคเดิมไม่ขับออก ก็ยืนยันว่าสามารถทำงานร่วมกันได้ ถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้เห็นว่า สส.พรรคประชาชนก็เริ่ม “เล่นการเมืองเป็น” แล้ว

“เคสนี้มันไม่ใช่งูเห่า เพราะงูเห่าคือการหักหลัง เขาไม่ได้หักหลัง แต่เป็นการพูดคุยและมีคลิปออกมาแล้วว่าจะออกอย่างไร หรือจะเลือกตั้งใหม่ มันแล้วแต่มุมมอง แต่ถ้าจะบอกว่างูเห่าก็งูเห่า ก็อยู่กันอย่างนั้นแหละ” นายไผ่ กล่าว

เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ยังเปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีนักการเมืองและอดีต สส. จำนวนมากไหลเข้ามาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ยิ่งได้เห็น ร.อ.ธรรมนัส นำทัพในพื้นที่ภาคใต้และประสบความสำเร็จ ทำให้หลายคนยิ่งมีความมั่นใจและอยากเข้ามาร่วมงานกับพรรค ยืนยันได้ว่าพรรคกล้าธรรมไม่ได้กำลังแสวงหา สส. เพื่อนำไปต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะพรรคมองข้ามไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2570 แล้ว ซึ่งขณะนี้พรรคมี สส. ที่มั่นใจว่าจะมาร่วมงานด้วยอย่างน้อยในมือ 35 คนแล้ว

“โห เปิดอีกเยอะเลย ตั้งแต่เลือกตั้งชนะ ที่ ร.อ.ธรรมนัส นำทัพไป มาสารพัดเลยครับ เพราะเขารู้สึกถึงความเอาจริงเอาจังของพวกเรา มีเยอะครับ และมีบิ๊กเนมที่อาจจะไม่ได้เป็น สส. มาร่วมงานกันเยอะครับ เราจะเอาในรูปแบบเข้าถึง พบปะ พูดคุยปัญหาในพื้นที่ตรงกับพี่น้องประชาชน” นายไผ่ กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีการเปิดตัวนักการเมืองที่จะย้ายเข้ามาในเร็วๆ นี้หรือไม่ นายไผ่ กล่าวสั้นๆ ว่า “เรื่อยๆ”