กกต.-DSI งง! ปิดหมายเรียก สว.โชคชัย หาบ้านเป็นชั่วโมง เจอตัวที่คอนโดฯ แต่ไม่อยู่ อ้างออกต่างจังหวัด
กรุงเทพฯ – เจ้าหน้าที่ กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงในการตามหาที่อยู่ของ นายโชคชัย กิตติธเนศวร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อนำหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาไปมอบให้ หลังจากพบปัญหาเรื่องพิกัดที่อยู่ สุดท้ายตามเจอถึงคอนโดมิเนียม แต่กลับไม่พบตัว สว. โดยอ้างว่าเดินทางไปต่างจังหวัดและไม่อยู่ห้องพักมาหลายวันแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนและไต่สวน กกต. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว DSI และตำรวจ สน.บางขุนเทียน นำเอกสารหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ไปมอบให้กับนายโชคชัย กิตติธเนศวร สว. ณ คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งบนถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
ก่อนที่จะพบพิกัดคอนโดฯ ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ โดยในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำหมายเรียกไปที่ชุมชนบริเวณซอยวัดหนัง ราชวรวิหาร ซึ่งนายโชคชัยได้กรอกที่อยู่ในการสมัคร สว. ไว้ เจ้าหน้าที่ต้องจอดรถทิ้งไว้ที่ปากซอยเนื่องจากถนนแคบ และเดินเท้าเข้าไปในซอยที่มีสภาพเป็นป่ารกกว่า 1 กิโลเมตร เพื่อตามหาบ้านตามที่อยู่ที่ระบุ แต่ก็ไม่พบ
เจ้าหน้าที่ได้พยายามโทรศัพท์สอบถามไปยังบุคคลใกล้ชิดของนายโชคชัย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลพิกัดที่อยู่ที่เป็นประโยชน์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเดินสอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นเวลานาน แต่ไม่มีใครรู้จักบ้านเลขที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงติดต่อไปยังที่ทำการไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งทำให้ทราบว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวอยู่ในคอนโดมิเนียม ห่างจากจุดที่ตามหาเดิมประมาณ 4.5 กิโลเมตร
ต่อมาในเวลาประมาณ 13.30 น. นายศุภชัย ช้างกลาง เจ้าหน้าที่สืบสวนไต่สวน กกต. ได้เปิดเผยภายหลังภารกิจว่า ได้นำหมายเรียกไปแจ้งไว้ที่บริเวณด้านหน้าประตูห้องพักของนายโชคชัยแล้ว เนื่องจากไม่พบตัว สว. อยู่ที่ห้อง โดยได้รับการแจ้งว่านายโชคชัยเดินทางไปต่างจังหวัด และไม่ได้กลับเข้ามาที่ห้องพักหลายวันแล้ว ซึ่งนิติบุคคลของคอนโดฯ ก็ให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่าในห้องไม่มีใครอยู่
เมื่อถูกถามถึงประเด็นที่นายโชคชัยอาจให้พิกัดที่อยู่คลาดเคลื่อน คล้ายกับไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดหรือไม่นั้น นายศุภชัย ชี้แจงว่า ทางเจ้าหน้าที่ กกต. จะไม่นำเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็น เนื่องจากเป็นหน้าที่และความสามารถของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องสืบหาที่อยู่เพื่อนำส่งหมายให้ได้
“เขาจะพูดพิกัดที่อยู่อย่างไรให้เราหลง มันต้องเป็นความสามารถของเราในการหาให้เจอได้” นายศุภชัยกล่าว พร้อมเสริมว่า อุปสรรคที่ทำให้ใช้เวลานานในการเข้าพื้นที่คอนโดฯ เป็นเรื่องสิทธิ์ของผู้อยู่อาศัย ซึ่งต้องมีการขออนุญาตตามขั้นตอน และทางนิติบุคคลให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะนี้ภารกิจในการนำส่งหมายได้เสร็จสิ้นตามที่ได้รับมอบหมายแล้ว และจะรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป