ร้อง กกต. ตรวจสอบผู้สมัครนายกเล็กโคราช เคยติดคุกคดีฉ้อโกง หวั่นขาดคุณสมบัติ
ร้อง กกต. ตรวจสอบผู้สมัครนายกเล็กโคราช เคยติดคุกคดีฉ้อโกง หวั่นขาดคุณสมบัติ
กรุงเทพมหานคร – ทนายปราบโกง ร่วมกับกลุ่มขจัดโกงโคราช ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองนครราชสีมา หลังพบประวัติเคยต้องคำพิพากษาและถูกจำคุกในคดีฉ้อโกง หวั่นขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 เมษายน 2568 ที่อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายกฤษฎา อินทามระ หรือ “ทนายปราบโกง” ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองนครราชสีมา พร้อมด้วย นายสุนทร แพงไพรี จาก “กลุ่มขจัดโกงโคราช” ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองนครราชสีมา รายหนึ่ง
นายกฤษฎา อินทามระ เปิดเผยว่า ผู้สมัครรายดังกล่าวมีประวัติเคยต้องคำพิพากษาในคดีอาญาของศาลอาญามีนบุรี ในข้อหาฉ้อโกง โดยคดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยรวม 3 คน ในข้อหาฉ้อโกงเงินเป็นจำนวน 25 ล้านบาท
ศาลอาญามีนบุรีได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 (ซึ่งคือผู้สมัครรายดังกล่าว) และจำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 (เดิม) และได้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้สมัครรายนี้เคยถูกคุมขังตามหมายศาลเป็นระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในเวลาต่อมา
“การที่บุคคลดังกล่าวเคยถูกคุมขังตามหมายของศาล แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 50 (6) ได้ระบุถึงคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัครว่า ‘ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล’ ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายตามบทบัญญัติดังกล่าว” ทนายปราบโกงกล่าว
ดังนั้น วันนี้ตนจึงได้นำเรื่องมาร้องขอให้ กกต. ได้โปรดตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรายดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมายหรือไม่ หากผลการตรวจสอบพบว่าขาดคุณสมบัติจริง ก็ขอให้ กกต. ได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและนำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป