ขอนแก่น – เกิดเหตุสุดอุกอาจและสะเทือนใจพุทธศาสนิกชน เมื่อคนร้ายไม่ทราบจำนวน (จากภาพวงจรปิดคาดว่า 1 คน) ก่อเหตุโจรกรรมเงินบริจาคภายในพระอุโบสถ วัดป่าแสงอรุณ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยใช้วิธีการสุดแสบ คือการใช้กาวดักแมลงวันหยอดใส่ช่องรับเงินบริจาค ก่อนอาศัยจังหวะที่พระสงฆ์ติดกิจนิมนต์ แอบย่องเข้ามากวาดเงินบริจาคที่ผู้ใจบุญร่วมทำบุญไว้ไปจนหมดเกลี้ยงทุกตู้ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกได้จากกล้องวงจรปิดภายในวัด สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวบ้านและผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากเพจ “Focuskhonkaen” ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในพระอุโบสถ วัดป่าแสงอรุณ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายเป็นชาย สวมใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ ได้เปิดประตูพระอุโบสถเข้ามา ก่อนจะเข้าไปกราบองค์พระประธาน จากนั้นได้เดินตรงไปยังตู้รับบริจาคของวัดซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 6 ตู้ที่ตั้งเรียงกันอยู่ด้านขวามือ ทำการงัดเอาเงินที่ผู้ใจบุญมาบริจาคทั้งหมด ก่อนจะเดินหลบหนีออกไปอย่างใจเย็น

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบกับนายนิทัศน์ บุญพร้อม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านเลิงเปือย ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น ขณะกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น, สภ.ย่อยพระลับ และเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัด และทำการตรวจสอบสภาพตู้รับบริจาคทั้ง 6 ใบอย่างละเอียด ซึ่งพบว่า ทุกใบมีร่องรอยของกาวดักแมลงวันติดอยู่บริเวณช่องสำหรับหยอดเงินรับบริจาคอย่างชัดเจน

นายนิทัศน์ บุญพร้อม ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์โจรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งเป็นช่วงที่พระสงฆ์ภายในวัดต่างติดกิจนิมนต์ออกไปข้างนอก ขณะที่พระอุโบสถ ปกติแล้วในช่วงเวลากลางวันจะมีการปิดประตูไว้ จะเปิดเฉพาะช่วงเวลาทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็นเท่านั้น คนร้ายจึงได้แอบเปิดประตูพระอุโบสถเข้ามา เดินตรงไปที่ตู้รับบริจาค ใช้โทรศัพท์มือถือเปิดไฟส่องไปที่ตู้ และทำการงัดเอาเงินที่อยู่ในตู้ทุกตู้ไปจนหมดเกลี้ยง ก่อนจะเดินออกไปทางประตูโบสถ์อย่างไม่เร่งรีบ

ผู้ใหญ่บ้านยังได้กล่าวเสริมอีกว่า จากการสอบถามพระลูกวัด ทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยตรวจพบร่องรอยของกาวลักษณะเดียวกันที่บริเวณช่องหย่อนเงินรับบริจาคตามตู้ต่างๆ มาก่อนแล้ว และยังเคยพบขวดกาวดักแมลงวันวางทิ้งอยู่ในพระอุโบสถ แต่ในตอนนั้นก็ไม่ได้สังหรณ์ใจ หรือคาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น จนกระทั่งในวันเกิดเหตุ ช่วงทำวัตรเย็น พระลูกวัดได้เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยตามปกติ และพบร่องรอยกาวติดอยู่ที่ตู้บริจาคอีกครั้ง จึงรีบตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และพบภาพคนร้ายกำลังลงมือก่อเหตุขโมยเงินจากตู้รับบริจาคด้วยวิธีการดังกล่าวจริง

นายนิทัศน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานและสอบถามคนในพื้นที่ คาดว่าคนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่บ้านเลิงเปือย หรือพื้นที่ใกล้เคียง แต่จากการสอบถามคนในวัด ทราบว่าคนร้ายมีพฤติกรรมเข้ามาป้วนเปี้ยนภายในวัดหลายครั้งแล้ว จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำกับวัด หรือสถานที่อื่นอีก

นอกจากนี้ ทางวัดยังคงต้องการผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคกล้องวงจรปิดสำหรับนำมาติดตั้งเพิ่มเติมในวัดอีกหลายจุด เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นหูเป็นตาในการเฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆ ขณะนี้ได้ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ อปพร. ในการเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบพื้นที่ภายในวัดและบริเวณโดยรอบวัดตลอด 24 ชั่วโมงให้มากขึ้นแล้ว