ขอนแก่นระอุ! ผู้ช่วยหาเสียงวัย 61 ปี ของผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลน้ำพอง ถูกชายฉกรรจ์เข้ามาทำร้ายร่างกายอย่างอุกอาจกลางวันแสกๆ ขณะกำลังช่วยเดินหาเสียงในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บเลือดกบปาก เจ้าตัวยืนยันไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกับใคร สงสัยอาจเชื่อมโยงประเด็นการเมืองท้องถิ่น ด้านคู่แข่งย้ำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เหตุการณ์ความรุนแรงที่สร้างความตกใจให้กับผู้คนในพื้นที่ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา บริเวณหน้าสำนักงานพื้นที่ประถมศึกษา เขต 4 อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ขณะที่กลุ่มผู้ช่วยหาเสียงของ นายสุรชัย คชินทักษ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลน้ำพอง หมายเลข 2 กำลังเดินหน้าพบปะประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

นายสมนึก อายุ 61 ปี หนึ่งในทีมหาเสียงของนายสุรชัย ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในขณะที่เขากำลังถ่ายภาพกิจกรรมการเดินหาเสียงอยู่นั้น ได้มีชายวัยรุ่นรูปร่างผอม อายุประมาณ 25 ปี สวมเสื้อสีขาว เดินเข้ามาจากด้านหลัง ก่อนจะใช้มือจับที่ไหล่ และชกเข้าที่บริเวณใบหน้าด้านขวาของเขาอย่างแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ปากและใต้ตาแตก มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก

นายสมนึก กล่าวต่อไปว่า หลังถูกทำร้าย เขาได้พยายามสอบถามชายคนดังกล่าวว่า ‘ต่อยผมทำไม’ แต่กลับได้รับคำตอบที่ฟังแล้วรู้สึกงงว่า ‘คนนี้แหละเป็นคนพาเขาทำ’ เมื่อพยายามถามย้ำว่า ‘พาทำอะไร’ ชายคนนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรอีก และเขาก็เริ่มมีอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ก่อนที่ชายผู้ก่อเหตุจะเดินข้ามถนนไปขึ้นรถเก๋งที่จอดอยู่ไม่ไกล และขับหลบหนีไปอย่างใจเย็น

ผู้ช่วยหาเสียงวัย 61 ปี ยืนยันว่า ตนเองเป็นข้าราชการบำนาญ และมีธุรกิจส่วนตัว ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือความขัดแย้งส่วนตัวกับใคร การที่มาช่วยนายสุรชัยหาเสียง ก็เพราะเป็นเพื่อนกัน และต้องการสนับสนุนเพื่อน จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่นหรือไม่นั้น ยังคงต้องรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อคลี่คลายปมปริศนานี้

สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลน้ำพอง และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลน้ำพอง ในครั้งนี้ มีผู้สมัครแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีฯ จำนวน 2 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายคัคเนศ คงเจริญสุข และ หมายเลข 2 นายสุรชัย คชินทักษ ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงที่กำลังเข้มข้น เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายผู้ช่วยหาเสียงในครั้งนี้จึงเป็นที่จับตามองว่าจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการเลือกตั้งและจะเชื่อมโยงกับประเด็นการเมืองหรือไม่ ต้องรอการสืบสวนอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป