KEX ยันเดินหน้าธุรกิจปกติ! หลังผู้ถือหุ้นใหญ่ SFTH เสนอเพิกถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แจงเหตุผลและแผนรับมือ
กรุงเทพฯ – วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนชั้นนำของประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงประเด็นสำคัญต่อสาธารณชนและนักลงทุน ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ)
การเสนอเพิกถอนหลักทรัพย์ในครั้งนี้มีขึ้นตามเจตนาของผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SFTH ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 81.43% โดย SFTH ได้แสดงความประสงค์ที่จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ KEX ที่ไม่ได้ถือครองโดย SFTH หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 651 ล้านหุ้น หรือ 18.57% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาเสนอซื้อที่ 1.50 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม KEX ได้เน้นย้ำอย่างชัดเจนว่า การดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ในครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด การให้บริการจัดส่งพัสดุด่วน รวมถึงบริการด้านอื่นๆ ของ KEX จะยังคงดำเนินไปตามปกติ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ หรือพนักงานของบริษัทฯ
ฝ่ายบริหารของ KEX ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาธุรกิจและการดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สำหรับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัทฯ ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการเพิกถอนหลักทรัพย์อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมในลำดับต่อไป
ทางด้าน SFTH ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ให้เหตุผลประกอบการเสนอเพิกถอนหลักทรัพย์ของ KEX ว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการจัดส่งพัสดุด่วนในประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก ทั้งสภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น การตั้งราคาเชิงรุกของผู้ประกอบการรายอื่น และแรงกดดันด้านราคาจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลประกอบการของ KEX ทำให้บริษัทฯ ประสบภาวะขาดทุนสุทธิอย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 13 ไตรมาส นอกจากนี้ยังเผชิญปัญหาด้านสภาพคล่อง และความยากลำบากในการคาดการณ์การฟื้นตัวของผลประกอบการในระยะสั้น
SFTH มองว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน KEX จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจ แต่การมีสถานะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลับเป็นข้อจำกัดที่ลดทอนความคล่องตัวในการระดมทุนและการปรับโครงสร้างทางการเงิน นอกจากนี้ KEX ยังประสบปัญหาเรื่องการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (free float) ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีความยากลำบากในการเพิ่มสัดส่วน free float ผ่านการออกหุ้นใหม่ให้กับนักลงทุนทั่วไป
ด้วยเหตุผลดังกล่าว SFTH จึงเห็นว่า การทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อเพิกถอน KEX ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว แต่ KEX ก็จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และจะปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป
สำหรับขั้นตอนต่อไป ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท KEX ได้มีมติกำหนดให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 20 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรับทราบความเห็นเกี่ยวกับการเพิกถอนหลักทรัพย์ และข้อเสนอของผู้ทำคำเสนอซื้อ รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฯ และเว็บไซต์ของบริษัทฯ ต่อไป
KEX ย้ำในตอนท้ายว่า บริษัทยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะขยายการดำเนินงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการนำนวัตกรรมมาใช้ และพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกด้าน เพื่อส่งมอบบริการจัดส่งพัสดุที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า และสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้