สู้รบเดือดชายแดนเมียนมาติดตาก! กะเหรี่ยงโจมตีหนักฐานทหารเมียนมา ด้านทัพฟ้าทิ้งระเบิดพลาดเป้าตกใส่หมู่บ้านพังยับ
ตาก – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนประเทศเมียนมา ตรงข้ามพื้นที่อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ทวีความตึงเครียดและดุเดือดอย่างต่อเนื่อง ระหว่างกองกำลังต่อต้านนำโดยกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และกองกำลังองค์การป้องกันชาติกะเหรี่ยง (KNDO) กับทหารเมียนมา โดยเฉพาะการเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการ บ.ตานเหล่ ของทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 24
รายงานข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 12 พฤษภาคม 2568 กองกำลัง KNLA และ KNDO ได้ระดมโจมตีฐานตานเหล่ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอแลงปอย จังหวัดผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ห่างจากแนวชายแดนไทยด้านบ้านแม่ต้าน หมู่ 1 ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ประมาณ 7 กิโลเมตร การโจมตีครั้งนี้ใช้อาวุธหนัก ทั้งเครื่องยิงจรวด ปืนซุ่มยิง (สไนเปอร์) รวมถึงการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน เสียงระเบิดและเสียงปืนดังสนั่นข้ามมาถึงพื้นที่อำเภอท่าสองยางของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน
ในส่วนของทหารเมียนมา ได้ใช้เครื่องบินรบแบบ YAK-130 ขึ้นบินโจมตีทางอากาศ เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานและตอบโต้กองกำลังกะเหรี่ยงที่โอบล้อมฐานอยู่ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าลูกระเบิดส่วนใหญ่ที่ทิ้งลงมานั้นได้พลาดเป้าหมายทางทหาร ไปตกลงในพื้นที่หมู่บ้านตานเหล่ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนชาวเมียนมา ทำให้บ้านเรือนราษฎรหลายหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก
สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น แม้สถานการณ์การสู้รบจะยังอยู่ในฝั่งเมียนมา แต่ก็ส่งผลให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อพยพข้ามมายังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวภายในประเทศไทย โดยปัจจุบันมี ผภสม. จำนวน 249 คน พักพิงอยู่ที่พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราววัดแม่หละ หมู่ 1 ตำบลแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย ซึ่งประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กองกำลังนเรศวร, กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงร่วมกันดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยฯ อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กองกำลังนเรศวร พร้อมด้วยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนตามแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง มีการนำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าประจำที่ตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมพร้อมป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของไทยจากกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัย รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทยอย่างใกล้ชิด