คืบหน้า คดีอุ้มฆ่า ‘ดีเจเตเต้’ ศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 4 ราย รวม 5 ผู้ต้องหา เปิด 5 ข้อหาหนัก ตร.เร่งล่าตัวที่เหลือ

กาญจนบุรี – ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญกรณีการอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ซึ่งพบศพถูกยิงและมัดมือในป่า ล่าสุด ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 ราย หลังจากที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว 1 ราย ทำให้คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องรวม 5 คน โดยมีการเปิดเผย 5 ข้อหาหนักที่ผู้ต้องหาเผชิญ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เร่งสั่งการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากจังหวัดกาญจนบุรี เกี่ยวกับคดีการหายตัวไปและการเสียชีวิตของ นายวราพงษ์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการพบร่างของเขาในสภาพขึ้นอืด ถูกมัดมือไพล่หลัง และมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะถึง 2 นัด ในป่าบริเวณบ้านทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

หลังการพบศพ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ลงพื้นที่บัญชาการคดีด้วยตนเอง และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีเร่งคลี่คลายคดี จนกระทั่งสามารถควบคุมตัว นายธนเดช (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องสงสัยรายแรกไว้ได้ก่อนหน้านี้

ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรีเพิ่มเติม ซึ่งศาลได้พิจารณาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 4 ราย ประกอบด้วย นายนพพิจิตร, นายธราเทพ, นายภคนัท, และ นายณรงค์เดช (ทั้งหมดขอสงวนนามสกุล) ทำให้ในขณะนี้ คดีอุ้มฆ่าดีเจเตเต้มีผู้ต้องสงสัยและผู้ถูกออกหมายจับรวมทั้งสิ้น 5 คน โดยมีนายธนเดชที่ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว

สำหรับข้อกล่าวหาที่ศาลได้อนุมัติออกหมายจับมีทั้งหมด 12 ข้อหา ซึ่งในจำนวนนี้มี 5 ข้อหาที่เป็นความผิดร้ายแรง ดังนี้:

  • ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้การขู่เข็ญให้กลัวว่าจะได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน และร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร
  • ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมีการไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุแห่งการตาย
  • ร่วมกันกระทำต่อศพหรือบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น
  • ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง
  • ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนเข้าเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น พร้อมข้อหาสมคบตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดตามกฎหมาย

จากข้อมูลการสืบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบหลักฐานสำคัญทั้งจากภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด และข้อมูลการติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 4 รายนี้ รวมถึงนายธนเดช ซึ่งรับหน้าที่ขับรถกระบะสีขาวตามประกบรถของดีเจเตเต้ในคืนเกิดเหตุ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องและอยู่ในเหตุการณ์การอุ้มและสังหารดีเจเตเต้

ล่าสุด พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีในวันนี้ เพื่อวางแผนและเร่งรัดการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลืออีก 4 คน ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *