“กมธ.พัฒนาการเมือง” หารือ “กทม.” เสนอปรับปรุง “พ.ร.บ.กทม.” ปลดล็อกอำนาจ ใกล้ชิดประชาชน “ชัชชาติ” เตรียมยื่นร่างคู่ขนาน

“กมธ.พัฒนาการเมือง” หารือ “กทม.” เสนอปรับปรุง “พ.ร.บ.กทม.” ปลดล็อกอำนาจ ใกล้ชิดประชาชน “ชัชชาติ” เตรียมยื่นร่างคู่ขนาน

คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าหารือผู้บริหาร กทม. นำเสนอแนวทางปรับปรุง พ.ร.บ. กทม. เพื่อปลดล็อกอำนาจการบริหาร เพิ่มประสิทธิภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านผู้ว่าฯ ชัชชาติ เห็นด้วยกับข้อเสนอหลายประเด็น เตรียมยื่นร่างกฎหมายคู่ขนานให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) 1 คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. ได้เข้าพบ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหาร เพื่อนำเสนอข้อเสนอแนะของ กมธ. ในการปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร และยกระดับประสิทธิภาพการบริหารงานของ กทม. พร้อมทั้งรับฟังความเห็นจากทาง กทม.

ภายหลังการหารือ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เปิดเผยว่า แม้ประชาชนชาว กทม. จะสามารถเลือกผู้ว่าฯ ได้โดยตรง แต่ยังมีหลายปัญหาที่ กทม. ยังไม่มีอำนาจเต็มที่ในการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนส่งสาธารณะ การจราจร หรือสาธารณูปโภคพื้นฐานบางส่วน ด้วยเหตุนี้ ทาง กมธ. และ กทม. จึงได้ร่วมกันศึกษาแนวทางการปรับปรุงการบริหารราชการ กทm. มาอย่างต่อเนื่อง จนได้ข้อเสนอโดยละเอียดที่มีเนื้อหาครบถ้วน และได้นำข้อเสนอดังกล่าวมารับฟังความเห็นเพิ่มเติมกับผู้บริหาร กทม. ในวันนี้

นายพริษฐ์ กล่าวสรุปข้อเสนอหลัก 3 ประการ ดังนี้

  1. ปลดล็อกอำนาจ กทม.: เพิ่มอำนาจให้ กทม. สามารถแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ได้มากขึ้น เช่น อำนาจในการบริหารจัดการระบบขนส่งสาธารณะ อำนาจในการจัดเก็บรายได้เพิ่มเติมโดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณส่วนกลางเป็นหลัก รวมถึงการบริหารจัดการด้านบุคลากรของตนเองได้อย่างยืดหยุ่น
  2. ปรับโครงสร้างให้ใกล้ชิดประชาชน: เสนอให้มีการจัดโครงสร้างการบริหารของ กทม. เป็น 2 ระดับ (Two-tier system) ชั้นบนคือ กทม. ในปัจจุบันที่มีผู้ว่าฯ และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) มาจากการเลือกตั้ง ส่วนชั้นล่างจะเป็นหน่วยงานบริหารขนาดเล็กกว่าระดับเขตหรือกลุ่มเขต ซึ่งจะมีผู้บริหารและสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน เพื่อให้การบริการและการตัดสินใจเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ย่อยได้ดียิ่งขึ้น
  3. เปิดกว้างการมีส่วนร่วมของประชาชน: ส่งเสริมให้ประชาชนใน กทม. สามารถใช้สิทธิ์เข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติ กทม. ได้สะดวกยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานและข้อมูลต่างๆ ของ กทm. อย่างโปร่งใสมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานได้อย่างง่ายดาย

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครฉบับปัจจุบันมีพื้นฐานหลักมาจากปี พ.ศ. 2528 ซึ่งบริบทของเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ความเห็นและข้อเสนอหลายอย่างของคณะกรรมาธิการฯ มีความสอดคล้องและคล้ายคลึงกับแนวทางที่ผู้บริหาร กทม. ได้ศึกษาและดำเนินการอยู่ เราได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมในหลายประเด็น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการบริหารงานของ กทม. หัวใจสำคัญคือการทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ คงจะต้องมีการหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนของ กทม. เอง ก็จะดำเนินการประกอบร่าง พ.ร.บ. ฉบับแก้ไขนี้ขึ้นมาคู่ขนานไปด้วย เพื่อเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้รัฐบาลได้เห็นความสำคัญและเร่งรัดกระบวนการพิจารณาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการปกครองท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *