คดี 4 ล้านยังไม่จบ! “จูน” อดีตภรรยา “หนุ่ม กะลา” เผยได้หมายฎีกาจาก “จ๊ะโอ๋” ทั้งที่บอกจะไม่สู้ ทนายชี้สิทธิ์ตามกฎหมาย

ความคืบหน้ากรณีพิพาทระหว่าง “จูน เพ็ญชุลี” อดีตภรรยาของนักร้องดัง “หนุ่ม กะลา” กับ “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” ซีอีโอสาวคู่กรณี ในคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 4 ล้านบาท ล่าสุดสถานการณ์กลับตาลปัตร เมื่อ “จูน” ออกมาโพสต์ภาพหมายศาลฎีกา ระบุว่าคดียังไม่สิ้นสุด แม้ก่อนหน้านี้ฝ่ายคู่กรณีจะเคยเปรยว่าจะไม่สู้ต่อแล้วก็ตาม

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากโพสต์ของ “จูน เพ็ญชุลี” เองที่ได้แชร์ภาพหมายศาล พร้อมข้อความว่า “ศาลใหม่ใกล้ฉัน มาเคลียร์คดีนึง…ได้ของแถมเป็นหมายฎีกากลับบ้านมาด้วย 4ล้านคือไม่จบ ที่ขอโทษคือ???” ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่ติดตามข่าวสารเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ “จูน เพ็ญชุลี” เป็นฝ่ายชนะคดี โดย “จ๊ะโอ๋” ต้องชำระค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากเพจดัง “อีป้าข้างบ้าน” ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงประเด็นนี้ว่า หลังจากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว ฝ่าย “จ๊ะโอ๋” เคยแจ้งความประสงค์ขอผ่อนชำระเงิน 4 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีเงินสดก้อนใหญ่ตามคำพิพากษา แต่ทางด้าน “จูน” ต้องการได้รับเงินครบถ้วนเป็นก้อนเดียว เพื่อยุติเรื่องราวที่ค้างคา ทำให้การเจรจาเพื่อหาข้อยุติไม่ลงตัว

แม้จะเคยมีกระแสข่าวว่า “จ๊ะโอ๋” จะไม่ยื่นฎีกาแล้ว และต้องการให้เรื่องนี้จบลง แต่การที่ “จูน” ได้รับหมายฎีกา หมายความว่า “จ๊ะโอ๋” ได้ใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาจริง ซึ่งเพจ “อีป้าข้างบ้าน” ตั้งข้อสังเกตว่า การยื่นฎีกาอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ หรือเพื่อต่อรองเงื่อนไขการชำระเงิน เนื่องจากหากไม่ยื่นฎีกาและไม่ชำระเงินตามคำพิพากษา ศาลก็จะดำเนินการบังคับคดี ยึดทรัพย์ หรืออาจนำไปสู่การฟ้องร้องล้มละลายได้

ด้าน “ทนายพัฒน์” ทนายความส่วนตัวของ “จูน เพ็ญชุลี” ก็ได้โพสต์ถึงกรณีนี้เช่นกัน โดยระบุว่า “เงิน 4 ล้านเขาไม่จ่าย เขาฎีกาก็เป็นสิทธิ์ที่เขาจะขออนุญาตฎีกาได้ตามกฎหมาย ส่วนคำพูดคนเชื่อถือได้หรือไม่มันคนละประเด็น ให้พิจารณาเอาเองครับ” ซึ่งเป็นการยืนยันว่าการยื่นฎีกาเป็นสิทธิ์ทางกฎหมาย แต่ก็ทิ้งท้ายให้พิจารณาถึงคำพูดที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้

นอกจากประเด็นคดี 4 ล้านบาทแล้ว เพจ “อีป้าข้างบ้าน” ยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “หนุ่ม กะลา” และ “จ๊ะโอ๋” ที่ช่วงนี้มีโพสต์แปลกๆ ทั้งคู่ โดยระบุว่า ได้รับทราบข้อมูลมาว่าทั้งสองคนมีปัญหากันเล็กน้อย แต่ขอไม่ลงรายละเอียดลึก เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว และมีการทะเลาะกันอยู่เป็นระยะ

สถานการณ์ล่าสุดในคดี 4 ล้านบาทนี้ จึงยังคงต้องติดตามต่อไปว่า ศาลฎีกาจะรับฎีกาของฝ่าย “จ๊ะโอ๋” หรือไม่ และหากรับ จะมีคำพิพากษาออกมาในทิศทางใด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *