ญาติน้องโฟกัสร้องทวงความยุติกรรม หลังถูกแฟนหนุ่มลูกบุญธรรมนักการเมืองฆ่าหมกทุ่งนา แม่ปฏิเสธเงินเยียวยา เรียกร้องโทษประหาร
เสียงร่ำไห้ระงม เผาแล้วน้องโฟกัส เหยื่อแฟนหนุ่มลูกบุญธรรมนักการเมืองท้องถิ่นฆ่าหมกทุ่งนา แม่ร้องขอโทษประหาร ให้เงินสิบล้านก็ไม่เอา เพื่อนๆหวั่นคดีเงียบ
จากกรณี น้องโฟกัส อายุ 18 ปี นักเรียนสาวชั้นม.6 เพิ่งสอบติดคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กำลังมีอนาคตสดใสถูกนายนพ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี หรือแฟรงค์ แฟนหนุ่มลูกบุญธรรมนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ชัยนาท ทำร้ายเสียชีวิตหมกศพไว้ในทุ่งนา หมู่ 6 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท เมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 9 เม.ย.2568 ที่วัดราษฎร์บำรุง (หนองต่อ) หมู่ 6 ต.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท ครอบครัวได้จัดพิธีฌาปนกิจศพน้องโฟกัส ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้ามีชาวบ้านจำนวนมาก และเพื่อนๆนักเรียนพากันเดินทางมาร่วมส่งน้องโฟกัสเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเสียใจและอาลัย
เพื่อนน้องโฟกัส บอกว่า ก่อนเกิดเหตุยังพูดคุยกับโฟกัสอยู่เลย พอทราบข่าวรู้สึกตกใจและอยากให้ผู้ก่อเหตุถูกลงโทษประหารชีวิตตายตกตามกันไป อยากให้เพื่อนไปอยู่ในภพภูมิที่ดี เพื่อนๆต่างรู้สึกกังวลเรื่องคดีความของเพราะพักหลังข่าวเงียบ อยากให้ช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับเพื่อนของพวกเราด้วย
ด้านน.ส.จีรนันท์ อายุ 33 ปี แม่น้องโฟกัส เปิดเผยว่า ก่อนเริ่มพิธีเผาศพน้อง ตนและครอบครัวเดินทางไปสภ.หันคา เพื่อทวงถามเรื่องคดีความกับ พ.ต.อ.ธนกฤต รวยอารี ผกก.สภ.หันคา เพราะทางเรากังวลว่าจะได้รับการประกันตัว กลัวว่าออกมาแล้วจะมาทำร้ายคนในครอบครัวอีก ซึ่งตนได้ไปคัดค้านการประกันตัวที่ชั้นศาลมาแล้ววานนี้
“ตั้งแต่เกิดเรื่องฝั่งครอบครัวผู้ต้องหาไม่มีการติดต่อ ไม่มีการมาขอขมา ไม่มีการช่วยเหลือเยียวยาเลย ไม่มาก็ไม่ว่า ขอไปเจอกันในชั้นศาลเราจะเดินหน้าสู้เพื่อน้องโฟกัสให้ถึงที่สุด ข่าวที่บอกว่าได้รับเงินมา 1 แสนบาทบอกเลยว่าไม่เคยได้รับและไม่อยากจะรับ จะให้เงินเป็นล้าน หรือเงินเป็นสิบล้านก็ไม่ขอรับ เพราะมาทดแทนสิ่งที่เสียไปไม่ได้เลย อยากให้ลงโทษประหารชีวิต”
ขณะที่นายพเยาว์ พ่อน้องโฟกัส ระบุ น้องไม่เคยทำบาปทำกรรม ไม่เคยด่าใคร เหมือนตามที่คนร้ายกล่าวอ้างไว้ก่อนขึ้นรถฝากขังศาล น้องเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อยจะไปด่าได้อย่างไร มีแต่ทางฝั่งผู้ต้องหาที่ใช้อำนาจข่มเหงรังแกกันมาตลอด เรามันคนรากหญ้าเราขอสู้ในแบบของเรา ฝากทางฝั่งนู้นด้วยว่า ให้มีจิตสำนึกบ้าง ให้มีความสำนึกผิดชอบชั่วดีบ้าง ลูกก่อเหตุพ่อบุญธรรมไม่โผล่หน้ามาเลย
“ผมก็มีหน้ามีตาในสังคม เป็นถึงอดีต สจ. รับใช้ประชาชน ก็ควรมาร่วมงานตั้งแต่แรกไม่ใช่หลบหน้าไปเช่นนี้ แต่ทางฝั่งนั้นคงมองว่าเราเป็นคนรากหญ้าคงไม่มีอะไรไปสู้รบปรบมือกับเขา ขอบอกตรงๆว่า ตนหวั่นใจที่ต้องไปสู้กับคนมีอำนาจ ฝากสื่อมวลชน ช่วยผลักช่วยดัน เป็นปากเป็นเสียงให้กับตนและครอบครัวทวงความยุติธรรมด้วย”