จุลพันธ์ เผยผลประชุม ADB นานาชาติเชื่อมั่นศักยภาพไทย ชี้ GDP โลกชะลอ คลังเตรียมถกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสัปดาห์หน้า

กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 พฤษภาคม ณ ท้องสนามหลวง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังการเข้าร่วมประชุมประจำปีครั้งที่ 58 ของคณะกรรมการธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศไทยกับทุกประเทศที่อยู่ในกรอบความร่วมมือ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญในการเพิ่มความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่ตลาดการค้ามีความผันผวน ความสัมพันธ์และการเจรจาพูดคุยระหว่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

รมช.คลัง กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศแบบกลุ่มจากหลายประเทศ ทุกฝ่ายยังคงแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และมองเห็นโอกาสในการดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเองก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยประเทศที่จะเข้ามาลงทุนด้วย เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปได้ โดยภารกิจนี้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ในการเตรียมข้อมูลต่างๆ ให้พร้อมเสมอ

เมื่อถูกถามถึงการคาดการณ์ GDP ของภูมิภาคอาเซียนโดย ADB ว่าจะตกต่ำลงหรือไม่ นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า ประเด็นนี้ได้มีการหารือกันในภาพรวมของการประชุม และได้รับทราบฐานข้อมูลที่ ADB ได้นำเสนอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลกที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มต่ำลงอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวน แม้จะยังไม่มีตัวเลขคาดการณ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับประเทศไทยในขณะนั้น แต่ไทยก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้เช่นกัน

นายจุลพันธ์ กล่าวเสริมว่า ในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งการอย่างชัดเจนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนกลไกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ และทำการบ้านให้หนักขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ในระดับที่เพียงพอต่อความต้องการและรองรับความท้าทายที่ประชาชนเผชิญอยู่

ส่วนแผนงานด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะใกล้ของกระทรวงการคลัง รมช.คลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังทั้งในระดับรัฐมนตรีและข้าราชการ รวมถึงกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กำลังทำงานในประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง และมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญคือ ในสัปดาห์หน้า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมีการเรียกประชุมเพื่อขับเคลื่อนโครงการและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบองค์รวม โดยจะนำมาตรการทั้งหมดที่มีอยู่มาพิจารณาใหม่ เพื่อประเมินว่ามาตรการส่วนไหนได้รับผลกระทบและควรปรับปรุง หรือเพิ่มเติมในส่วนใดบ้าง เช่น มาตรการที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว การลงทุน และการจ้างงาน โดยจะดำเนินการเรื่องนี้ให้รวดเร็วที่สุดเพื่อให้มาตรการต่างๆ มีความสอดคล้องและสามารถรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

สำหรับความคืบหน้าและความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ให้กับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน ซึ่งดูเหมือนจะมีการขยับกำหนดการที่เคยวางไว้ รมช.คลัง กล่าวเพียงสั้นๆ ให้รอติดตามความคืบหน้า เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการทบทวนรายละเอียดต่างๆ เมื่อรายละเอียดครบถ้วนแล้วจะมีการประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการในครั้งเดียว