จเรตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ภาคใต้ ประสานทัพเรือภาค 2 ลุยปราบ 3 อาชญากรรมร้าย: ค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ น้ำมันเถื่อน
สงขลา – พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 และทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ
เมื่อวานนี้ (วันที่ 15 พฤษภาคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งควบตำแหน่งผู้อำนวยการถึง 3 ศูนย์สำคัญ ได้แก่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) , ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ (ศตคม.) และศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาปฏิบัติราชการในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 จังหวัดสงขลา
ในช่วงเช้า เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 9 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา โดยมี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์อาชญากรรมในพื้นที่ และรับมอบนโยบาย พร้อมทั้งกำชับการปฏิบัติงานของฝ่ายจเรตำรวจ และการทำงานของศูนย์ปราบปรามทั้ง 3 ศูนย์ที่กำกับดูแลอยู่
จเรตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทาง 15 นโยบายหลักของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยให้ยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานทุกระดับ พร้อมเน้นย้ำให้ทำงานโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง รับฟังและตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาท ที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
จากนั้นในช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อประชุมหารือความร่วมมือกับฝ่ายทหารเรือ โดยมี พล.ร.ท.นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ผบ.ทรภ.2/ผอ.ศรชล.ภาค 2) พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทัพเรือภาคที่ 2 เข้าร่วม เพื่อร่วมกันวางแนวทางและบูรณาการการทำงานในการปราบปรามอาชญากรรมสำคัญ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
ประเด็นที่ 1 : การค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่รัฐบาลให้ความใส่ใจอย่างยิ่ง เนื่องจากสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทยยังอยู่ในระดับ Tier 2 และหากมีการลดระดับลง จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการส่งออกของประเทศ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทัพเรือภาคที่ 2 จเรตำรวจแห่งชาติได้ขอความร่วมมือ นอกจากการตรวจเรือประมงแล้ว ให้พิจารณาเพิ่มการตรวจตราเรือประเภทอื่นๆ เช่น เรือขนส่งในระยะใกล้ หรือเรือต่าง ๆ ที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับการนำเด็กไปล่วงละเมิดทางเพศบนเรือขนส่งในทะเล เพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ทางทะเลอย่างเข้มงวด
ประเด็นที่ 2 : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งรัฐบาลถือเป็นวาระแห่งชาติเช่นกัน แม้ที่ผ่านมาจะพบว่ามีการใช้ประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่าน แต่ก็ยังมีความเสี่ยง จเรตำรวจแห่งชาติจึงขอให้ทัพเรือภาคที่ 2 ประสานความร่วมมือในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราบุคคลที่อาจลักลอบเข้าเมืองทางทะเล ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการตรวจหาสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่อาจใช้สนับสนุนการกระทำผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย
ประเด็นที่ 3 : น้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง จเรตำรวจแห่งชาติได้ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับกองทัพเรือ ประสานงานกันในทุกมิติ เพื่อร่วมกันปราบปรามขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับทัพเรือภาคที่ 2 ในเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา โดยมี พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ให้การต้อนรับ ซึ่งจเรตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล