สิ้น “จอน อึ๊งภากรณ์” อดีต สว.-นักวิชาการดัง บุตรชาย “ป๋วย อึ๊งภากรณ์” เสียชีวิตวัย 77 ปี
กรุงเทพฯ – วงการสังคมและการเมืองไทยต้องพบกับการสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อมีรายงานข่าวว่า นายจอน อึ๊งภากรณ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และนักวิชาการผู้ทรงคุณค่า ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ในวัย 77 ปี
นายจอน อึ๊งภากรณ์ เป็นที่รู้จักในฐานะบุตรชายคนโตของ ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ได้รับการยกย่องอย่างสูง โดยนายจอน เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2490
ประวัติการศึกษาของนายจอน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Sussex ประเทศอังกฤษ หลังจบการศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ท่านได้กลับมาเป็นอาจารย์สอนวิชาฟิสิกส์ให้กับนักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งในช่วงเวลานั้น ท่านเป็นอาจารย์รุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมของนักศึกษา
ในช่วงเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย เช่น 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองมีความตึงเครียด นายจอนพร้อมด้วยบิดาและน้องชาย รวมถึงคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในประเทศอังกฤษ ได้ร่วมกันจัดทำหนังสือ “มิตรไทย” เพื่อเป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยให้กับคนไทยในต่างแดนและประชาคมโลก พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาที่ต้องลี้ภัยทางการเมืองในเวลานั้น
เมื่อเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง นายจอนได้เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการคนแรกของมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) โดยทำงานร่วมกับนายภูมิธรรม เวชชยชัย ซึ่งขณะนั้นเป็นรองผู้อำนวยการ ท่านได้ใช้เวลาใน มอส. กว่า 10 ปี เพื่อบ่มเพาะและสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีส่วนร่วมในการทำงานพัฒนาชุมชนและชนบท
ต่อมา นายจอนได้อุทิศตนทำงานด้านสาธารณสุขและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในโครงการเข้าถึงเอดส์ (ACESS) เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคมไทย ในยุคแรกๆ ที่สังคมไทยเผชิญกับวิกฤตการณ์เอดส์ ผู้ติดเชื้อจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานและพนักงานบริการทางเพศต้องเผชิญกับการถูกตีตราและประณามว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา
เมื่อมีความพยายามที่จะละเมิดสิทธิ์ของผู้ติดเชื้อด้วยการกักบริเวณ นายจอนและกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) จำนวนมากได้ออกมาประท้วงแนวคิดดังกล่าว และยึดเอาประเด็นเอดส์กับปัญหาสิทธิมนุษยชนเป็นหลักในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ท่านได้ร่วมก่อตั้งและดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ในช่วงปี พ.ศ. 2534-2543
ในปี พ.ศ. 2543 นายจอน อึ๊งภากรณ์ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาผู้แทนกรุงเทพมหานคร และดำรงตำแหน่งจนถึงปี พ.ศ. 2549
นอกจากบทบาททางการเมืองและงานพัฒนาสังคมแล้ว นายจอนยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์ออนไลน์ “ประชาไท” ในปี พ.ศ. 2547 ร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อเป็นสื่อทางเลือกในการนำเสนอข่าวสารที่หลากหลาย โดยท่านเคยกล่าวถึงเหตุผลในการทำสื่อว่าเกิดจากความรู้สึกว่าสื่อมวลชนไทย โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ขาดความเป็นอิสระ และบรรยากาศของสื่อคล้ายกลับไปสู่ยุคเผด็จการทหาร
ท่านยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรภาคประชาสังคมที่สำคัญอีกหลายแห่ง เช่น ไอลอว์ (iLaw) ซึ่งทำงานด้านกฎหมายและการรณรงค์เพื่อสิทธิเสรีภาพ
ด้วยผลงานและการอุทิศตนเพื่อสังคม นายจอน อึ๊งภากรณ์ ได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ โดยได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการภาครัฐ ประจำปี พ.ศ. 2548 ซึ่งถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ
แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว แต่นายจอนยังคงมีบทบาทในการเคลื่อนไหวทางสังคม ในปี พ.ศ. 2550 ท่านได้เข้าร่วมคัดค้านการออกกฎหมายโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ตั้งขึ้นหลังการรัฐประหาร โดยเห็นว่าการเร่งรีบออกกฎหมายหลายฉบับที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพประชาชน ควรเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร การเคลื่อนไหวครั้งนั้นนำไปสู่การดำเนินคดีที่รู้จักกันในชื่อ “คดีปีนสภา” ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกดำเนินคดี
การจากไปของนายจอน อึ๊งภากรณ์ ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ได้สร้างคุณูปการแก่สังคมไทยในหลากหลายมิติ ทั้งด้านวิชาการ การเมือง งานพัฒนาสังคม และการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
ที่มา: เว็บไซต์ ประชาไท