รมต.จิราพร สั่งเข้ม! ตรวจหอพักรังสิต หลังผู้เช่าร้องถูกเอาเปรียบ สคบ.-ตำรวจ เร่งสอบ

ปทุมธานี – นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้บริโภคร้องเรียนปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการหอพักในพื้นที่ย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยระบุว่าได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม การข่มขู่ สร้างความเดือดร้อน และการทำสัญญาเช่าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้เช่า โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในพื้นที่

จากกรณีดังกล่าว นางสาวจิราพร ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งดำเนินการตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างเร่งด่วนและเต็มที่ โดยได้เน้นย้ำให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุม

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 เลขาธิการ สคบ. ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อหารือและวางแผนการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ต่อมาในวันที่ 25 เมษายน 2568 คณะเจ้าหน้าที่จาก สคบ. และ สภ.ปากคลองรังสิต ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบหอพักที่ได้รับเรื่องร้องเรียน และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยจากการลงพื้นที่เบื้องต้น พบว่ามีผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น 17 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียหาย 3 ราย ได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์กับ สคบ. ไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาและดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอน สำหรับผู้เสียหายอีก 14 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับเรื่องไว้เพื่อทำการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อประกอบการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ทาง สคบ. ได้ประสานส่งเรื่องร้องทุกข์ของผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้ง 14 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเช่าห้องพักในบริเวณหมู่บ้านเมืองเอก ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และในขณะเดียวกัน ทาง สคบ. ได้ออกหนังสือเรียกผู้ประกอบการหอพักมารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงข้อเท็จจริง ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นี้

นางสาวจิราพร กล่าวย้ำว่า หากผู้ประกอบธุรกิจรายดังกล่าวได้รับหนังสือเรียกแล้วยังไม่มาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกำหนด จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 45 ซึ่งมีบทลงโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ความพยายามในการตรวจสอบยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจอีกครั้ง แต่ไม่พบบุคคลใดแสดงตนเป็นเจ้าของหรือผู้รับผิดชอบหอพักดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปยัง สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า สคบ. จะยังคงติดตามและให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคกลุ่มนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม หากพบว่าผู้ประกอบการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาลตำบลหลักหก เพื่อตรวจสอบการใช้อาคารว่าถูกต้องตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หรือไม่ กรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อตรวจสอบว่าประกอบธุรกิจหอพักถูกต้องตาม พ.ร.บ. หอพัก พ.ศ. 2558 หรือไม่ และกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบเรื่องรายได้และการเสียภาษี เพื่อให้การช่วยเหลือผู้บริโภคเป็นไปอย่างรอบด้านและครอบคลุมทุกมิติของปัญหา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *