เจษฎาเทคนิคมิวเซียม รับมอบรถดับเพลิงสมรรถนะสูงเทียบเท่าสนามบิน เสริมแกร่งงานบรรเทาสาธารณภัย-ดูแลชุมชน
นครปฐม – เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ กรรมการบริหารมูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม เปิดเผยถึงการรับมอบรถดับเพลิงเอนกประสงค์สมรรถนะสูง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนภารกิจหลักด้านการบรรเทาสาธารณภัยภายในพื้นที่มิวเซียม และใช้ในงานด้านความปลอดภัยและกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) เพื่อช่วยเหลือชุมชนโดยรอบในอำเภอนครชัยศรีและละแวกใกล้เคียง โดยมีคณะที่ปรึกษามูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม จากก๊วนตัวตึงเตรียมทหารรุ่น 10 ร่วมเป็นเกียรติ อาทิ พลเอก วรวิทย์ ชินะนาวิน, พลโท บรรพต งามกัณหา, นาวาอากาศเอก บุญชู วรรณวิทยสิงห์, คุณอภิสิทธิ์ ธรรมใจ และคุณสุพจน์ อ่อนบุญมี
ดร.ภาคภูมิ กล่าวว่า รถดับเพลิงเอนกประสงค์คันนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่เพียงแต่สนับสนุนภารกิจระงับเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นกับมิวเซียมหรือชุมชนใกล้เคียง แต่ยังใช้ในการล้างทำความสะอาดพื้นที่ถนน และรดน้ำต้นไม้ซึ่งมีจำนวนมากในมิวเซียม การมีรถดับเพลิงประจำพื้นที่นี้ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลพื้นที่และสนับสนุนชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“แม้เราจะเป็นองค์กรภาคเอกชน แต่มีความตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัยในสังคม การมีรถดับเพลิงประจำ จะช่วยดูแลบุคลากร ผู้เข้าชม และชุมชนรอบข้างได้อย่างทันท่วงที และจะเดินหน้าพัฒนาศักยภาพด้านนี้ต่อไป เรายึดมั่นในแนวทางที่ไม่เพียงส่งเสริมความรู้ด้านยานยนต์ แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและการมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อร่วมสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืน” ดร.ภาคภูมิ กล่าว
ด้าน นาวาอากาศเอก บุญชู วรรณวิทยสิงห์ กล่าวเสริมว่า รถดับเพลิงคันนี้มีฟังก์ชันครบถ้วนสำหรับภารกิจทั้งในและนอกพื้นที่ ระบบสูบน้ำ แรงดันน้ำ และอุปกรณ์ฉีดน้ำรองรับทั้งการดับเพลิงและบรรเทาสาธารณภัย ถือเป็นแบบอย่างที่ดีขององค์กรเอกชนที่มีความพร้อมในการสนับสนุนงานด้านความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ ซึ่งตามจริงแล้วเป็นภารกิจของภาครัฐเป็นหลัก ขอชื่นชม ดร.ภาคภูมิ ที่มีวิสัยทัศน์เล็งเห็นประโยชน์และสนับสนุนความปลอดภัยชุมชนร่วมกับหน่วยงานรัฐ การมีรถดับเพลิงเพิ่มขึ้นสร้างความอุ่นใจได้มาก
นาวาอากาศเอก บุญชู ยังให้ข้อมูลทางเทคนิคของรถคันนี้ว่า มีขนาดถังบรรทุกน้ำ 3,800 ลิตร ตัวรถยี่ห้อ ISUZU FRR 225PS./165KW นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น น้ำหนัก 9,900 กิโลกรัม ใช้เครื่องยนต์ดีเซล และที่พิเศษคือ มีปั้มน้ำดับเพลิงถึง 2 ตัว คือ ปั้มฉีดน้ำ Ziegler 28/8 อัตราสูบส่ง 2,800 ลิตรต่อนาที ที่แรงดัน 8 บาร์ และปั้มฉีดน้ำ Taki อัตราสูบส่ง 2,400 ลิตรต่อนาที พร้อมปืนฉีดน้ำ 2 กระบอก (ปกติมีเพียง 1 กระบอก) แต่ละกระบอกฉีดได้ 1,400 ลิตรต่อนาที รวม 2 กระบอก ฉีดได้ 2,800 ลิตรต่อนาที
“ความพิเศษของรถดับเพลิงเอนกประสงค์คันนี้ คือการมีปั้มน้ำ 2 ตัว ทำให้มีสมรรถนะเทียบเท่ารถดับเพลิงตามสนามบินสากลทั่วไป อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งหมายความว่า สามารถวิ่งไปด้วยและฉีดน้ำไปด้วยได้ แตกต่างจากรถดับเพลิงทั่วไปที่ต้องจอดนิ่งก่อนถึงจะฉีดน้ำได้” นาวาอากาศเอก บุญชู อธิบายเพิ่มเติม
พลเอก วรวิทย์ ชินะนาวิน กล่าวปิดท้ายว่า การมีรถดับเพลิงเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อความอุ่นใจให้ประชาชน การที่ภาคเอกชนอย่างเจษฎาเทคนิคมิวเซียมให้ความสำคัญกับสาธารณภัยถือเป็นเรื่องน่ายกย่องและเป็นตัวอย่าง เพราะความปลอดภัยคือความร่วมมือของทุกภาคส่วน การมีอุปกรณ์พร้อมและทีมงานที่ฝึกฝนช่วยลดความเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองเหตุฉุกเฉินได้จริง เจษฎาเทคนิคมิวเซียมอาจเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในไทยและในโลกที่มีรถดับเพลิงประจำการภายในพื้นที่ แถมยังเป็นรถดับเพลิงประเภทเดียวกับรถดับเพลิงอากาศยานอีกด้วย
ทั้งนี้ เจษฎาเทคนิคมิวเซียมยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Page Facebook : Jesada Technik Museum