จาการ์ตา, อินโดนีเซีย – อดีตนักบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา จาร์เรด ชอว์ (Jared Shaw) วัย 34 ปี ซึ่งปัจจุบันมาเล่นอาชีพให้กับสโมสร ตังเกอรัง ฮอว์กส์ (Tangerang Hawks) ในประเทศอินโดนีเซีย กำลังเผชิญหน้ากับข้อหาครอบครองยาเสพติดร้ายแรง ซึ่งอาจนำไปสู่โทษจำคุกตลอดชีวิต หรือแม้แต่โทษประหารชีวิต ภายใต้กฎหมายที่เข้มงวดของอินโดนีเซีย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา (Soekarno-Hatta International Airport) ในกรุงจาการ์ตา ได้แจ้งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบพัสดุต้องสงสัยที่ถูกส่งมาจากประเทศไทยถึงนายชอว์

เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดของท่าอากาศยานจึงได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของ จาร์เรด ชอว์ และพบของกลางเป็นขนมที่มีส่วนผสมของกัญชา หรือ เดลต้า 9 THC (เตตราไฮโดรแคนนาบินอล) จำนวนมากถึง 132 ชิ้น ซึ่งถือเป็นยาเสพติดประเภทร้ายแรงและผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดในประเทศอินโดนีเซีย

มีรายงานว่าในระหว่างการเข้าจับกุมและควบคุมตัว นายชอว์ ได้แสดงอาการตกใจและตะโกนขอความช่วยเหลือ ซึ่งวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่และสร้างความตกตะลึงในวงกว้าง

นายโรนัลด์ ซิปายุง (Ronald Sipayung) หัวหน้าตำรวจประจำท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา ได้ยืนยันเกี่ยวกับการจับกุมครั้งนี้ โดยระบุว่า “การกระทำความผิดเกี่ยวกับขนมที่มีส่วนผสมของเดลต้า 9 THC ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักกีฬาบาสเก็ตบอล ได้รับการจัดการโดยหน่วยปราบปรามยาเสพติดของตำรวจท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา”

สำหรับภูมิหลังของ จาร์เรด ชอว์ เขาเคยเป็นที่รู้จักในวงการบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ โดยเล่นให้กับทีม โอกลาโฮมา สเตต (Oklahoma State) และ ยูทาห์ สเตต (Utah State) ก่อนจะถูกดราฟต์เข้าสู่ เอ็นบีเอ ดีเวลลอปเมนท์ ลีก (NBA Development League) หรือปัจจุบันคือ จี ลีก (G League) ในปี 2015 และได้เล่นให้กับทีม ซานตา ครูซ วอร์ริเออร์ส (Santa Cruz Warriors) ซึ่งเป็นทีมในเครือของ โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส (Golden State Warriors) แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่เอ็นบีเอ จึงย้ายมาเล่นในลีกต่างประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สโมสร ตังเกอรัง ฮอว์กส์ ได้ออกแถลงการณ์ทันที โดยระบุว่า สโมสรไม่มีนโยบายยอมรับการกระทำที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ จาร์เรด ชอว์ ทันที

คดีนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเข้มงวดของกฎหมายยาเสพติดในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งแตกต่างจากบางประเทศในภูมิภาคนี้ที่เริ่มผ่อนคลายกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา และชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางหรือพำนักอยู่ในประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้ายาเสพติดข้ามประเทศ