ยาชิโอะ, ญี่ปุ่น – ทางการท้องถิ่นเมืองยาชิโอะ จังหวัดไซตามะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์หลุมยุบขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกแห่งหนึ่งในเมืองตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ยืนยันการพบร่างที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ภายในท่อระบายน้ำบริเวณที่รถบรรทุกตกลงไป และคาดว่าจะเป็นร่างของคนขับรถบรรทุกวัย 74 ปี ที่สูญหายไปตั้งแต่เกิดเหตุ

เหตุการณ์หลุมยุบดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 และได้กลืนรถบรรทุกทั้งคันพร้อมกับชายคนขับวัย 74 ปีหายวับไปกับตา หลุมยุบขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหลุมยักษ์ที่มีความกว้างถึง 40 เมตร และลึกกว่า 15 เมตร ขณะที่จากการประเมินภายหลังพบว่า ห้องโดยสารของรถบรรทุกถูกกระแสน้ำในท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่างพัดหายไปในระยะทางประมาณ 30 เมตร

รายงานจากสำนักข่าวเกียวโดนิวส์และสเตรตส์ไทมส์ระบุว่า การค้นหาผู้สูญหายและส่วนต่างๆ ของรถบรรทุกดำเนินมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดเหตุ แต่ภารกิจต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ โดยเฉพาะความเสี่ยงที่หลุมยุบจะพังทลายลงมาอีก ทำให้ทางการจังหวัดไซตามะต้องสั่งระงับภารกิจค้นหาภาคสนามไปเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการค้นหาไม่หยุดนิ่ง โดยเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้ดำเนินการเบี่ยงเส้นทางระบายน้ำ เพื่อลดปริมาณน้ำในท่อระบายน้ำหลัก ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ด้านล่างและปฏิบัติงานเก็บกู้ได้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การพบร่างในครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการเข้าตรวจสอบสภาพภายในท่อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุ เพื่อประเมินการไหลของน้ำและระดับก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งผลการประเมินชี้ว่าความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติเพิ่มเติมภายในท่อระบายน้ำนั้นค่อนข้างต่ำ ซึ่งเพียงพอที่หน่วยดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถเดินหน้าปฏิบัติการเก็บกู้ในท่อระบายน้ำต่อไปได้

เจ้าหน้าที่วางแผนจะเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตและส่วนของห้องโดยสารรถบรรทุกในท่อระบายน้ำอย่างเต็มรูปแบบโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะเป็นภายในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ โดยมีแผนจะใช้ทางลาดเอียงที่สร้างขึ้นจากบริเวณหลุมยุบเชื่อมต่อไปยังท่อระบายน้ำ รวมถึงเตรียมช่องทางแนวตั้งแยกไว้ต่างหากสำหรับการใช้เครื่องจักรหนักยกส่วนห้องโดยสารรถบรรทุกขึ้นมาด้านบน การพบร่างในครั้งนี้ถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการคลี่คลายเหตุการณ์น่าเศร้าที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนมาตลอดกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา