เสียงกระเป๋าดังผิดปกติ! รวบ 3 ชาวจีน คาเกาะญี่ปุ่น ลอบขน ‘ปูเสฉวน’ สัตว์คุ้มครอง นับพันตัว น้ำหนักกว่า 160 กก.
โตเกียว, ญี่ปุ่น – สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงบีบีซี รายงานข่าวการจับกุมคดีลักลอบค้าสัตว์ป่าครั้งสำคัญในประเทศญี่ปุ่น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบนเกาะอามามิ ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของประเทศ ได้ทำการจับกุมชายชาวจีนต้องสงสัย 3 คน ในข้อหาพยายามลักลอบนำ “ปูเสฉวน” ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองของเกาะแห่งนี้ ออกนอกประเทศ
รายงานระบุว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งสามคนเป็นชายชาวจีน อายุ 24 ปี, 26 ปี และ 27 ปี การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นบนเกาะอามามิ หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสจากพนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับฝากดูแลสัมภาระของผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ ก่อนจะสังเกตเห็นความผิดปกติ เนื่องจากมีเสียงดังแปลกๆ คล้ายเสียงขยับหรือครูดกันดังออกมาจากภายในกระเป๋าเดินทาง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ก็ต้องพบกับภาพที่น่าตกใจ โดยพบปูเสฉวนจำนวน “หลายพันตัว” ถูกอัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเดินทางหลายใบ จากการชั่งน้ำหนักพบว่าชุดแรกมีน้ำหนักมากถึงประมาณ 95 กิโลกรัม และต่อมายังพบปูเสฉวนอีก 65 กิโลกรัมในกระเป๋าเดินทางอีกชุดของผู้ต้องสงสัยคนที่สาม ทำให้ยอดรวมน้ำหนักของปูเสฉวนที่ยึดได้ในการจับกุมครั้งนี้มีปริมาณมหาศาลถึงประมาณ 160 กิโลกรัม
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของปูเสฉวนเหล่านี้ โดยระบุว่าเป็น “สมบัติของชาติ” (national treasure) เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของความหลากหลายทางชีวภาพบนเกาะอามามิ การลักลอบนำออกไปถือเป็นการทำลายระบบนิเวศในพื้นที่ รายงานจากสื่อท้องถิ่นอย่าง เจแปนไทมส์ (Japan Times) ชี้ว่า ปูเสฉวนบางชนิดบนเกาะอามามิอาจมีมูลค่าสูงถึง 20,000 เยน หรือประมาณ 4,530 บาทต่อตัวในตลาดมืด ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า
คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการจับกุมผู้พยายามลักลอบขนสัตว์คุ้มครองหรือใกล้สูญพันธุ์ เช่น ลูกปลาไหล หรือลูกเต่ากาลาปากอส ออกจากประเทศต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง
ขณะนี้ ตำรวจญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อขยายผลว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยชาวจีนกลุ่มนี้มีจุดประสงค์ที่แท้จริงในการลักลอบขนปูเสฉวนจำนวนมหาศาลนี้ไปที่ใด และเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายข้ามชาติหรือไม่ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดและผู้ร่วมขบวนการมารับโทษตามกฎหมายต่อไป