หวั่นถูกฆ่าชิงทรัพย์! ‘เจ๊แก้ว’ เจ้าของแผงทุเรียนสุราษฎร์ธานี หายตัวปริศนาพร้อมทอง 20 บาท-เงินสด 1 แสน
หวั่นถูกฆ่าชิงทรัพย์! ‘เจ๊แก้ว’ เจ้าของแผงทุเรียนสุราษฎร์ธานี หายตัวปริศนาพร้อมทอง 20 บาท-เงินสด 1 แสน
สุราษฎร์ธานี – 18 พฤษภาคม 2568 – ญาติของ น.ส.สุจิตรา หรือที่รู้จักกันในนาม “เจ๊แก้ว” อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนชื่อดังในพื้นที่ตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อขอให้เร่งติดตามหา หลัง น.ส.สุจิตรา ได้หายตัวไปอย่างเป็นปริศนาตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า การหายตัวไปของ “เจ๊แก้ว” สร้างความตกใจและวิตกกังวลให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทราบว่าในวันที่หายตัวไปนั้น “เจ๊แก้ว” ได้พกพาทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปด้วยจำนวนไม่น้อย
น้องสาวของ น.ส.สุจิตรา ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงว่า ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 19:40 น. ของวันที่ 17 พฤษภาคม ซึ่งพี่สาวบอกว่ากำลังจะเดินทางออกจากแผงทุเรียนที่ตลาดเพื่อกลับบ้าน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป พี่สาวก็ยังไม่ถึงบ้านตามปกติ ทำให้ตนและญาติเริ่มเป็นกังวล จึงได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อหาพี่สาวทั้งสองหมายเลขที่ใช้งานอยู่ แต่ก็ไม่มีผู้รับสาย ความพยายามในการติดต่อยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในช่วงเที่ยงของวันที่ 18 พฤษภาคม โทรศัพท์มือถือหมายเลขหนึ่งของพี่สาวก็ได้ถูกปิดเครื่องไป
น้องสาวให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ทำให้ความกังวลเพิ่มขึ้นไปอีกว่า ตามปกติแล้ว “เจ๊แก้ว” มักจะสวมใส่ทรัพย์สินมีค่าติดตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะเครื่องประดับทองคำ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท, สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท และแหวนทองคำอีกน้ำหนัก 5 บาท รวมน้ำหนักทองคำที่ติดตัวในวันที่หายไปไม่ต่ำกว่า 20 บาท
นอกจากทองคำแล้ว ในวันเกิดเหตุ “เจ๊แก้ว” ยังได้พกเงินสดซึ่งเป็นรายได้จากการขายทุเรียนในวันนั้นติดตัวไปด้วยอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งประเมินแล้วไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท
น้องสาวและญาติยืนยันว่า ที่ผ่านมาพี่สาวไม่เคยมีปัญหาขัดแย้ง หรือมีศัตรูที่ไหน ทำให้ไม่เชื่อว่าการหายตัวไปครั้งนี้จะเกิดจากเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ ความเป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือพี่สาวอาจจะตกอยู่ในอันตราย และเกรงว่าอาจจะถูกกลุ่มคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ทำร้ายร่างกายเพื่อชิงทรัพย์สินมีค่าที่พกพาไปด้วย จึงได้รีบเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อขอให้ช่วยเร่งดำเนินการติดตามค้นหาตัว น.ส.สุจิตรา โดยเร็วที่สุด หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถคลี่คลายปมปริศนานี้และช่วยเหลือพี่สาวของตนให้กลับมาได้อย่างปลอดภัย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งความดังกล่าวแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน และเริ่มดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามหาตัว น.ส.สุจิตรา รวมถึงตรวจสอบประเด็นที่ญาติเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องการประสงค์ต่อทรัพย์ต่อไป