กรุงเทพฯ – แจ็คสัน หวัง ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ผู้มากความสามารถ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชนไทยอย่างเป็นกันเอง ณ อาคารมาลีนนท์ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยถึงการทำงานในอัลบั้มล่าสุด Magic Man 2 และเปิดเผยหลากหลายแง่มุมของชีวิต ทั้งเรื่องราวการทำงาน ประสบการณ์ที่ผ่านมา จนถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเอง และข้อคิดดีๆ ที่อยากส่งต่อให้กับทุกคน

ทันทีที่ปรากฏตัว แจ็คสัน หวัง ได้กล่าวทักทายสื่อมวลชนและแฟนคลับชาวไทยด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่เป็นกันเองว่า “ไฮ ไทยแฟน (ยกมือไหว้) พี่แจ็คนะครับ ผมแจ็คสัน หวัง ขอบคุณที่มากันวันนี้นะครับ” ก่อนจะเข้าสู่ประเด็นการพูดคุยเกี่ยวกับอัลบั้ม Magic Man 2

แจ็คสันได้อธิบายถึงที่มาและความหมายของชื่ออัลบั้มว่า “ก่อนอื่นเลยหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเมจิกแมนคืออะไร ‘เขาบอกว่า เมจิกแมน ไม่รู้’ (พูดภาษาไทย) ทุกคนไม่เข้าใจว่าเมกอัพในเมจิกแมนคือยังไง ถ้าต้องใช้ 2 ประโยคในการอธิบาย เมจิกแมนคือความเป็นภายในของแจ็คสัน หวัง เป็นคาแร็กเตอร์ที่จะพรีเซ้นต์ความเป็นภายในของแจ็คสัน หวัง ออกมา”

เขายังได้เปิดใจถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตการทำงานกว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วง 3-4 ปีที่รู้สึกดำดิ่ง “ผมเดบิวต์ตั้งแต่อายุยังน้อยและได้ผ่านประสบการณ์มามากมายเป็นเวลากว่า 10 ปี และอยู่ในจุดที่ดำดิ่งที่สุดของผม ช่วงเวลา 3-4 ปี ที่ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความดำมืด และด้วยความที่ผมเป็นนักดนตรีเป็นผู้ทำเพลงเลยอยากให้เพลงเล่าเรื่องราวเล่านี้ให้คนได้รับรู้”

เมื่อถูกถามถึงแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ผ่านบทเพลง แจ็คสันเผยว่า จริงๆ แล้วไม่ได้มีแรงบันดาลใจพิเศษ แต่เกิดจากการที่เขาตัดสินใจหยุดพักงานไป 1 ปี เพื่อพักผ่อนและทบทวนตัวเอง “พอในช่วงเวลาว่าง 1 ปีได้มานั่งคิดว่ายังไม่เคยทำเพลงเพื่อตัวเองเลย ผมเลยใช้ช่วงนี้ในการมาเล่าเรื่องราวผ่านเพลง มานั่งเขียนไดอารี่ มาพูดถึงความจริงเรื่องราวต่างๆ ที่เจอ และเอาไดอารี่เล่านี้มาเรียบเรียงผ่านบทเพลง”

สำหรับเพลงล่าสุด GBAD ที่ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมทั่วโลก แจ็คสันกล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนและช่วยกระจายข้อความในเพลง “ขอบคุณครับ ขอบคุณที่สนับสนุนผลงานของผมและใช้แพลตฟอร์มของทุกคนเป็นตัวช่วยในการสนับสนุนผมและอยากให้ทุกคนได้รับรู้เรื่องของผมที่ส่งผ่านข้อความในเพลง”

เขายังได้อธิบายความหมายของประโยคเด็ดจากเพลง GBAD ที่ว่า “Life is great. Just gotta be a dick sometimes.” ว่าหมายถึงโลกนี้สวยงาม แต่ในบางครั้งเมื่อเราดีเกินไปก็อาจถูกล้ำเส้น จึงจำเป็นต้องเป็น “ปีศาจ” บ้าง เพื่อปกป้องตัวเอง

ในฐานะศิลปินที่ประสบความสำเร็จในหลายด้าน แจ็คสันเผยว่า แรงขับเคลื่อนคือความรักในสิ่งที่ทำ “สำหรับผมแล้วมันไม่จำเป็นที่จะรู้สึกว่าจะต้องลุกมาทำงานในแต่ละวันเลย เพราะการทำงานในแต่ละวันเป็นสิ่งที่ผมรักอยู่แล้ว ฉะนั้นเลยไม่รู้สึกว่ามันเป็นมิสชั่นอะไรเลย แต่มันเป็นการเอ็นจอยในสิ่งที่ทำมากกว่า”

เมื่อขอให้รีวิว “แจ็คสัน หวัง” ในวัย 31 ปี เขาเปิดใจว่า “โอ้มายก๊อด! แจ็คสันในวัย 31 เป็นแจ็คสันที่รู้สึกว่ามีความมั่นใจว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่ในชีวิต รู้สึกว่าต้องเดินไปทางไหนมากกว่า… แต่พอในวัยที่ 30 ขึ้นมาแล้ว ผมเริ่มรู้สึกว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจะตัดทิ้ง อะไรคือสิ่งที่ควรไปต่อ” เขายังยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายว่า การฟื้นฟูช้าลงและรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าตอนหนุ่มๆ

พร้อมกันนี้ แจ็คสันได้เผยเคล็ดลับความหล่อที่ไม่ธรรมดา “นั่นเป็นเพราะผมทำทรีตเมนต์ครับ ยกกระชับหน้าด้วย ผมทำมาเยอะ ไม่ง่ายนะจริงๆ (หัวเราะ) แต่มันก็แตกต่างจากตอนอายุ 20 อยู่ดี เมื่อก่อนคือสามารถที่จะดื่ม แล้วนอน 2 ชั่วโมงก็ลุกขึ้นไปทำงานได้เลย แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ครับ”

สุดท้ายกับฉายา “เขยไทย” แจ็คสันรับรู้และเข้าใจความหมาย ซึ่งได้ยินมาจากรายการโหนกระแส แต่คิดว่าเป็นมุก พร้อมโชว์สกิลภาษาไทยที่เพิ่งเรียนมาเพิ่มเติม เช่น “ทำเป็นเล่นนะครับ” และประโยค “คิ้วส่งหน้า หน้าส่งชุด ชุดส่งคน คนส่งยิ้ม”

ก่อนจะฝากข้อความสุดท้ายถึงแฟนๆ ด้วยความห่วงใย “ผมไม่ได้อยากที่จะโปรโมตอัลบั้มใหม่ตอนนี้ แต่ผมมีข้อความที่อยากจะฝากถึงแฟนๆ ทุกคนว่า จริงๆ แล้วโลกใบนี้มันโกลาหลวุ่นวายมาก ชีวิตเราก็ต้องผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมาย บางครั้งมันอาจจะทำให้เราลืมไปว่าเราต้องรักตัวเองด้วย ฉะนั้นบางครั้งที่เรายอมเป็นคนไม่ดีหรือเห็นแก่ตัวบ้าง มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะผมอยากให้ทุกคนรักตัวเองมากขึ้น” เขาย้ำว่าในฐานะเอนเตอร์เทนเนอร์ เขาก็มีความสุขที่ได้มอบความสุขและรอยยิ้มให้กับทุกคน