ITC เผยผลประกอบการ Q1/68 รายได้แตะ 4,249 ล้านบาท ยอมรับเศรษฐกิจโลกกระทบยอดขายกลุ่มพรีเมียม แต่ชี้โอกาสรุกตลาดใหม่

กรุงเทพฯ – บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,249 ล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อย 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปริมาณการขายเติบโต 13.2% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 677 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 24.1%

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ไตรมาสแรกของทุกปีจะเป็นช่วงที่การขยายตัวมักจะอยู่ในระดับเล็กน้อย ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทำให้ยอดขายสินค้าในกลุ่มพรีเมียมของบริษัทปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ITC ยังคงสามารถรักษาสัดส่วนยอดขายสินค้าพรีเมียมให้อยู่ในระดับ 47–50% สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการและรักษาสมดุลพอร์ตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับสัดส่วนรายได้ตามภูมิภาคในไตรมาสแรกของปี 2568 นั้น อเมริกายังคงเป็นตลาดหลักด้วยสัดส่วน 60% ของรายได้รวม รองลงมาคือเอเชียและโอเชียเนีย 28% และยุโรป 12% ด้านสัดส่วนรายได้ตามกลุ่มผลิตภัณฑ์แบ่งเป็นอาหารแมว 71% อาหารสุนัข 16% และขนมสัตว์เลี้ยง 13%

ITC ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในตลาดหลักอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารแมวชนิดเปียก รวมถึงต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและขนมสัตว์เลี้ยงให้มีความหลากหลายมากขึ้น เป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มปริมาณการจำหน่าย พร้อมขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Private Label และผู้นำเข้าสินค้าในทุกภูมิภาค

ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากผู้ค้าปลีกในประเทศเยอรมนี อิตาลี และตุรกี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มส่งมอบสินค้าได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 นี้ นายพิชิตชัย กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสสำคัญของ ITC ในการรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความแตกต่างและขยายส่วนแบ่งตลาดได้

นอกจากการขยายตลาดแล้ว ITC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คุณภาพสูงที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมได้ราว 182 ล้านบาทแล้วในปีนี้ นอกจากนี้ การร่วมมือกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลกในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ยังคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มอีกราว 13.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บริษัทฯ ยังได้เริ่มโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงและอาหารแมวตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ตลอดทั้งปี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อศักยภาพการพัฒนานวัตกรรมและการผลิตของ ITC การพัฒนาพอร์ตสินค้าที่สำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์ประเภท chunk และ pâté รวมถึงการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์กลุ่ม Functional Pet Food ที่ตอบโจทย์เทรนด์โภชนาการเชิงป้องกันสำหรับสัตว์เลี้ยงระยะยาว ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ

สำหรับการลงทุนในปี 2568 ITC ยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โครงการสำคัญได้แก่ คลังสินค้าอัตโนมัติ ASRS ที่จังหวัดสงขลา และเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงในรูปแบบถุงเพาซ์ที่โรงงานสมุทรสาคร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ

นายพิชิตชัย ย้ำว่า แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนภายนอก แต่ ITC ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรม รวมถึงการมีพันธมิตรทั่วโลก จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด ขยายฐานลูกค้าใหม่ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างคุณค่าให้กับทุกภาคส่วน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *