อิสตันบูล, ตุรกี – เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เมืองอิสตันบูล มหานครสำคัญของประเทศตุรกี ประสบเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.2 สร้างความตื่นตกใจแก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานจัดการภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินของตุรกี (AFAD) ได้รายงานเบื้องต้นว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรง หรือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้

ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ที่บริเวณทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) ซึ่งอยู่ห่างจากอิสตันบูลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 40 กิโลเมตร และมีความลึกจากผิวดินเพียง 10 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวระดับตื้น ทำให้รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจนในพื้นที่กว้าง

หลังจากเหตุแผ่นดินไหวหลัก ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายระลอก โดยหนึ่งในนั้นมีความรุนแรงถึงขนาด 5.3 แมกนิจูด ทางหน่วยงาน AFAD จึงได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง และขอให้อยู่ห่างจากอาคารสิ่งปลูกสร้างที่อาจไม่มั่นคง เพื่อความปลอดภัย

ตุรกีเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวที่สำคัญถึง 2 แนว ทำให้มักเกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้งในประเทศ ประชาชนจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับเหตุการณ์ลักษณะนี้

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลและยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คน คือแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักใน 11 จังหวัดทางภาคใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตในตุรกีไปกว่า 53,000 ราย และอีกกว่า 6,000 คนในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศซีเรียที่อยู่ใกล้เคียง

สำหรับแผ่นดินไหวล่าสุดที่อิสตันบูลนี้ แม้จะมีความรุนแรงถึง 6.2 แต่ด้วยศูนย์กลางที่อยู่ในทะเลและระดับความลึก อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเสียหายบนพื้นดินไม่รุนแรงเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อกและการปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนในพื้นที่