สุราษฎร์ธานี – ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี สนธิกำลังร่วมกับหลายหน่วยงาน บุกจับชาวต่างชาติ สัญชาติอิสราเอล เปิดธุรกิจให้เช่ารถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายบนเกาะพะงัน หลังได้รับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวถึงพฤติการณ์ที่สร้างความเดือดร้อน โดยพบมีการใช้บัญชีของหญิงไทยในการทำธุรกรรม และมีรายได้จากการประกอบธุรกิจนี้กว่า 3 ล้านบาทต่อปี

ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบและจับกุม นายพาเวล (Mr. Pavel) อายุ 33 ปี สัญชาติอิสราเอล ที่บ้านพักซึ่งไม่ได้จดทะเบียนเป็นที่ประกอบการ ในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเป็นสถานที่ใช้ในการดำเนินการธุรกิจให้เช่ารถจักรยานยนต์

การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการสืบสวนสอบสวน หลังมีนักท่องเที่ยวร้องเรียนถึงปัญหาการเรียกเก็บค่าเช่ารถจักรยานยนต์ที่สูงเกินจริง และพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่การขยายผลจนพบว่า ธุรกิจดังกล่าวดำเนินการโดยชาวต่างชาติ โดยมีผู้หญิงไทยคอยให้ความร่วมมือในการใช้บัญชีธนาคารเพื่อรับเงินค่าเช่า

ในระหว่างการเข้าจับกุม นายพาเวล ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ดำเนินการธุรกิจให้เช่ารถจักรยานยนต์ดังกล่าวจริง โดยอ้างว่าเป็นการขยายธุรกิจจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตนเองเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งตนเองมีใบอนุญาตทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป

นายพาเวล ให้การเพิ่มเติมว่า ได้เดินทางมายังเกาะพะงันเพื่อจัดตั้งธุรกิจเช่ารถจักรยานยนต์ ซึ่งให้บริการผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ โดยมีรถจักรยานยนต์ในเครือข่ายทั้งหมด 90 คัน ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก และในวันที่เข้าจับกุม ตรวจพบรถจักรยานยนต์จำนวน 15 คันจอดอยู่ที่บ้านพัก โดยยอมรับว่ารถทั้งหมดซื้อต่อมาจากชาวอิสราเอลและคนไทยผ่านทางกลุ่มซื้อขายบนเฟซบุ๊กในราคาที่ถูกกว่าปกติ

จากการสอบสวน นายพาเวล ยอมรับว่ามีรายได้จากธุรกิจเช่ารถจักรยานยนต์นี้ประมาณ 3 ล้านบาทต่อปี

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายพาเวล ในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ตามใบอนุญาตทำงาน พร้อมทั้งยึดของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 15 คัน, หมวกกันน็อก 15 ใบ, กุญแจรถจักรยานยนต์สำรอง 109 ดอก, สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 51 เล่ม และสัญญาเช่ารถ 386 ฉบับ ไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ได้รับตัว นายพาเวล พร้อมของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลติดตามตัวหญิงไทยผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งให้ความร่วมมือในการใช้บัญชีธนาคารเพื่อรับเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายนี้ต่อไป