เจอจังๆ! คนงานขุดดินวางสายเคเบิ้ลผงะ พบ “โครงกระดูกมนุษย์” ใต้ทางรถไฟโพธาราม ราชบุรี คาดฝังนาน 10 ปี

ราชบุรี – คนงานบริษัทรับเหมาขนลุกซู่! ขณะใช้รถแบคโฮขุดเจาะดินรอดใต้ทางรถไฟ บริเวณสถานีรถไฟโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อวางสายเคเบิ้ล จู่ๆ พบชิ้นส่วน “โครงกระดูกมนุษย์” ผงะกลางดึก เบื้องต้นพบ กราม ฟัน กระดูกสันหลัง และเศษกระดูกแขนซี่โครง สภาพผุพัง คาดถูกฝังมานานนับสิบปี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ ขณะที่ผู้พบเตรียมนำเลขที่เกี่ยวข้องไปเสี่ยงโชค

เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 24 เมษายน 2568 ร.ต.อ.รัฐนินท์ เกษมสิทธิ์ชัยกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ บริเวณสถานีรถไฟโพธาราม ในเขตเทศบาลโพธาราม หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี

ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณริมทางรถไฟ เจ้าหน้าที่พบกับพนักงานของบริษัท สุลักษณ์อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาขุดเจาะร้อยท่อสายเคเบิ้ลใต้ดิน โดยหนึ่งในพนักงานได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่ดูชิ้นส่วนของโครงกระดูกมนุษย์ที่พบ ประกอบด้วย ส่วนของกราม ฟัน กระดูกสันหลัง เศษกระดูกแขน และเศษกระดูกซี่โครง ซึ่งกระดูกแต่ละชิ้นนั้นอยู่ในสภาพที่เริ่มผุกร่อนแล้วอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องคาดการณ์ว่า โครงกระดูกดังกล่าวน่าจะถูกฝังมาเป็นระยะเวลายาวนานไม่ต่ำกว่าสิบปี

จากการสอบถาม นายอำนาจ เผ่าผาง อายุ 24 ปี ผู้ที่พบชิ้นส่วนโครงกระดูกเป็นคนแรก เล่าถึงนาทีที่พบว่า ระหว่างที่ตนและเพื่อนร่วมงานกำลังปฏิบัติหน้าที่ขุดเจาะดินเพื่อทำอุโมงค์ขนาดเล็กสำหรับร้อยท่อสายเคเบิ้ลใต้ทางรถไฟ โดยใช้รถแบคโฮในการขุด เมื่อรถแบคโฮใช้แขนยื่นลงไปตักดินใต้ทางรถไฟ ก็ได้ลากเอาชิ้นส่วนของกระดูกบางอย่างขึ้นมาด้วย ตอนแรกที่เห็น ตนคิดว่าเป็นกระดูกสัตว์ แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ถึงกับต้องตกใจ เพราะสิ่งที่เห็นนั้นคือชิ้นส่วนของกระดูกมนุษย์ จึงรีบแจ้งหัวหน้างานและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบทันที

นายอำนาจ ยังกล่าวต่ออีกว่า หากเจ้าของร่างโครงกระดูกนี้อยากขึ้นมาทั้งหมด ตนก็ขอให้ตนขุดเจอชิ้นส่วนที่เหลือทั้งหมด และในโอกาสนี้ ตนก็จะนำเลขที่เกี่ยวข้องไปเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย โดยจะใช้เลขอายุของตนเองคือ 24 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ที่พบโครงกระดูกพอดีคือวันที่ 24 เมษายน และจะใช้เลขท้ายของรถแบคโฮที่ใช้ขุดซึ่งคือเลข 913

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม ได้สันนิษฐานจากข้อมูลและสภาพพื้นที่ว่า บริเวณที่พบโครงกระดูกนั้น ในอดีตเคยเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับป่าช้าเก่าของวัดโพธาราม จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า โครงกระดูกที่พบอาจเป็นศพของบุคคลที่เสียชีวิตแล้วถูกนำมาฝังไว้ในบริเวณนี้เมื่อนานมาแล้ว จนกระทั่งเวลาผ่านไป ทางการรถไฟได้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่ และมีการว่าจ้างบริษัทรับเหมาเข้ามาดำเนินการขุดเจาะรอดใต้ทางรถไฟเพื่อวางระบบสายเคเบิ้ล จนกระทั่งมาพบกับชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ดังกล่าว

ภายหลังการตรวจสอบและเก็บรวบรวมข้อมูลในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ที่พบทั้งหมด เพื่อนำไปเก็บรักษาและรอการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายและนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของเจ้าของโครงกระดูกต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *