ระทึก! ไฟไหม้ป่าหญ้ารังสิต 100 ไร่ ควันคลุ้งฟ้า ชาวบ้านผวาใกล้แนวท่อแก๊ส เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมเพลิง
ปทุมธานี – เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2568 เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เมื่อเพลิงได้ลุกไหม้ป่าหญ้าและป่ากกเป็นบริเวณกว้างกว่า 100 ไร่ ใกล้ชุมชนย่านรังสิต ส่งผลให้กลุ่มควันสีดำหนาทึบพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มองเห็นได้จากระยะไกล สร้างความตื่นตระหนกและความกังวลให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้นั้นอยู่ใกล้กับแนวท่อส่งก๊าซ
ศูนย์วิทยุดับเพลิงเทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ป่าหญ้าและกำลังจะลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชนที่ซอยรังสิตนครนายกที่ 17 ตำบลประชาธิปัตย์ จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงของเทศบาลนครรังสิตจำนวน 3 คัน เข้าพื้นที่เพื่อเร่งระงับเหตุและควบคุมเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำ
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นป่าหญ้าและป่ากกเก่าที่มีหญ้าแห้งสะสมอยู่จำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้างกว่า 100 ไร่ ประกอบกับในขณะเกิดเหตุมีลมกรรโชกแรง ยิ่งเป็นปัจจัยเร่งให้ไฟขยายตัวเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชนมากขึ้น นอกจากกลุ่มควันดำที่ปกคลุมจนเกือบมิดท้องฟ้าแล้ว ยังมีเศษฟางหญ้าที่ไหม้แล้วปลิวว่อนไปทั่ว ทำให้ชาวบ้านโดยรอบได้รับผลกระทบจากควันและกลิ่นไหม้ จนเกิดอาการแสบตา
สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือพื้นที่ซึ่งเกิดเพลิงไหม้นั้นอยู่ใกล้กับแนวท่อส่งก๊าซของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีป้ายและธงสีขาวปักเป็นแนวชัดเจน ความเสี่ยงของการเกิดอันตรายร้ายแรงหากเพลิงลุกลามไปถึงท่อส่งก๊าซ สร้างความวิตกกังวลอย่างยิ่งให้กับเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้พยายามใช้น้ำฉีดเป็นแนวป้องกัน (Firebreak) เพื่อชะลอและหล่อเลี้ยงไม่ให้เปลวไฟลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชนให้ได้มากที่สุด
พันจ่าอากาศเอก ศิริศักดิ์ เอี่ยมสะอาด ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า พื้นที่ที่เกิดไฟไหม้เป็นที่ดินของเอกชนหลายแปลงรวมกัน มีเนื้อที่หลายร้อยไร่ เดิมเป็นสวนส้มเก่า ปัจจุบันกลายเป็นป่ากกและป่าหญ้าแห้ง จุดที่ปักธงสีขาวคือแนวท่อส่งก๊าซของ ปตท. ซึ่งอยู่ในแนวของเพลิงไหม้พอดี ท่านย้ำว่าการที่ไฟไหม้ในพื้นที่ป่ากกที่มีหญ้าแห้งจำนวนมากและอยู่ใกล้แนวท่อก๊าซเช่นนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะมาจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนจัด การเสียดสีของหญ้าแห้ง หรืออาจเกิดจากการที่มีคนเข้ามาหาปลาหรือเข้าไปในพื้นที่แล้วมีการจุดไฟ ซึ่งต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้านตัวแทนชาวบ้านในชุมชน กล่าวด้วยความกังวลว่า รู้สึกไม่ปลอดภัยและกลัวว่าไฟจะลุกลามมาถึงบ้านเรือน แม้ว่าจะพยายามทำแนวกันไฟเองในบางส่วน แต่พื้นที่ด้านหลังบ้านหลายหลังไม่มีแนวป้องกันที่เพียงพอ ชาวบ้านระบุว่าพื้นที่บริเวณนี้เกิดเหตุไฟไหม้เกือบทุกปี สมัยก่อนที่ยังไม่มีการป้องกันที่ดี ไฟเคยไหม้ลามถึงตัวบ้านมาแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการจัดทำคูน้ำ หรือสร้างแนวกันไฟที่เป็นมาตรฐานและถาวรในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อันตรายเช่นนี้ซ้ำอีกในอนาคต
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงระดมกำลังเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและป้องกันไม่ให้ลุกลามเข้าพื้นที่อ่อนไหวและบ้านเรือนประชาชน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนและลมแรง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการดับเพลิง