ประจวบคีรีขันธ์ – ตำรวจ สภ.หัวหิน สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีปาไข่ใส่นักท่องเที่ยวหญิงชาวเมาริเชียสได้แล้ว โดยผู้ต้องสารภาพว่าก่อเหตุด้วยความเครียดจากปัญหาปากท้องและรายได้ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวผู้เสียหายได้แสดงความให้อภัย พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยยังคงเป็น “Land of Smiles” และตอนนี้เธอรักหัวหินมากยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ต.อ.กำพล นาควิชัย ผู้กำกับการ สภ.หัวหิน ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มีนักท่องเที่ยวโพสต์ภาพประสบการณ์ไม่คาดฝัน ถูกปาไข่ใส่บริเวณหน้าสถานีรถไฟหัวหิน เพียงเพราะใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น. นักท่องเที่ยวหญิงชาวเมาริเชียสรายหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาพร้อมสามี ได้เดินทางมาถึงสถานีรถไฟหัวหิน และได้เรียกรถ Grab เพื่อเดินทางไปยังที่พัก ปรากฏว่าได้มีบุคคลไม่ทราบชื่อ ปาไข่ใส่รถคันดังกล่าว ทำให้เสื้อผ้าของนักท่องเที่ยวหญิงได้รับความเสียหายเปรอะเปื้อน

จากเหตุการณ์นี้ นักท่องเที่ยวได้โพสต์ข้อความเตือนภัยลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “Life in Hua Hin” ซึ่งได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก และมีการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุในวงกว้าง

พ.ต.อ.กำพล กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทราบเรื่อง ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามผู้ก่อเหตุโดยทันที ทีมสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และพบว่าเคยมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นถึง 3 ครั้ง ระหว่างวันที่ 12 ถึง 17 เมษายน

เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อาชีพคนขับวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) เยาวชนหญิงอายุ 16 ปี ทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาสารภาพว่า แรงจูงใจเกิดจากความเครียดสะสมในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากรายได้ลดลงเป็นอย่างมาก และเห็นว่ามีรถจากแอปพลิเคชัน Grab เข้ามาแย่งผู้โดยสารที่เป็นลูกค้าประจำของพวกเขา ทั้งสองยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายนักท่องเที่ยว หรือทำให้ชื่อเสียงของเมืองหัวหินเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภายหลังเกิดเหตุ นักท่องเที่ยวทั้งสองคนได้โพสต์ข้อความขอบคุณการทำงานของตำรวจ สภ.หัวหิน และชาวหัวหินว่า “เราขอขอบคุณชาวหัวหินและนักท่องเที่ยวทุกคนอย่างจริงใจสำหรับกำลังใจหลังจากเหตุการณ์ปาไข่เมื่อวานนี้ค่ะ ตำรวจมืออาชีพมาก ได้พาเราไปพบผู้ก่อเหตุเพื่อสอบถาม เราขอชื่นชมเจ้าหน้าที่และคุณ Sunday (ผู้ช่วย/ล่าม) ที่ทำงานเคียงข้างตำรวจไทยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย”

นักท่องเที่ยวหญิงผู้เสียหายกล่าวต่อไปว่า “ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนที่มาจากครอบครัวที่ยากจน ในฐานะครูที่ทำงานกับเด็กและเยาวชน ฉันเข้าใจถึงความเครียดและแรงกดดันที่พวกเขาเผชิญ ดังนั้น เราจึงขอให้ตำรวจเพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับนักท่องเที่ยวคนอื่นอีกค่ะ คนไทยเป็นคนขยัน นี่คือเหตุผลที่เรากลับมาเที่ยวไทยปีละ 2-3 ครั้งค่ะ เรายังคงรัก ‘Land of Smiles’ และวันนี้เรายิ่งรักหัวหินมากขึ้นไปอีกค่ะ”