กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน โดยคาดการณ์ว่าประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่งอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 18 พฤษภาคม 2568 ขณะที่ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ เสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาได้เปิดเผยการคาดหมายลักษณะอากาศในระยะ 7 วันข้างหน้า โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 13-18 พฤษภาคม บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมทะเลจีนใต้

สำหรับภาคใต้ ลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ตลอดช่วง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

พยากรณ์อากาศรายภาค (วันที่ 13-18 พฤษภาคม 2568)

• ภาคเหนือ: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
• ภาคกลาง: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
• ภาคตะวันออก: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
• ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก): มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง
• ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก): มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง

กรมอุตุนิยมวิทยาได้เน้นย้ำให้ประชาชนโดยทั่วไประวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากฝนฟ้าคะนอง โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝน และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง เนื่องจากอาจได้รับอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่า

สำหรับเกษตรกร ควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง ขณะที่ประชาชนควรดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

สภาวะคลื่นลม: บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นลมกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สถานการณ์ฝุ่นละออง: การสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบนในช่วงนี้ อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งช่วยชะล้างฝุ่นละอองในอากาศ

กรมอุตุนิยมวิทยายังได้กล่าวถึงสัญญาณที่ใช้ในการพิจารณาการเข้าสู่ ‘ฤดูฝน’ ของประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ทิศทางลมตั้งแต่ระดับล่างถึง 3.5 กม. เปลี่ยนเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามัน 2. ลมชั้นบนตั้งแต่ 5 กม. ขึ้นไป เปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3. มีฝนตกชุกต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ