ปะทะเดือดเมียนมาใกล้ชายแดนไทย! ห่างแค่ 2 กม. เสียงระเบิดดังสนั่น ชาวเมียนมา 233 ชีวิตอพยพข้ามฝั่ง

สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดตาก กลับมาตึงเครียดและน่ากังวลอีกครั้ง หลังเกิดการสู้รบอย่างหนักระหว่างกองกำลังทหารกะเหรี่ยง (KNLA) และทหารเคเอ็นดีโอ (KNDO) กองพันที่ 5 ของกลุ่มเคเอ็นยู กับฝ่ายทหารเมียนมา บริเวณบ้านมอพาซู อำเภอเมียวดี จังหวัดเมียวดี ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านห้วยปลากอง หมู่ 12 ตำบลขะเนจื้อ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก

การปะทะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเที่ยงของวันนี้ (19 เมษายน 2568) และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รายงานระบุว่า กองกำลังกะเหรี่ยงได้นำกำลังพร้อมอาวุธครบมือเข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ทั้งยังมีการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บินเข้าทิ้งระเบิด สร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้าม

จุดที่เกิดการสู้รบในครั้งนี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และมีระยะห่างจากแนวชายแดนไทยเพียงแค่ประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้ผลกระทบจากเสียงการปะทะดังมาถึงฝั่งไทย การสู้รบใช้เวลานานกว่า 48 ชั่วโมงแล้ว โดยมีการระดมยิงตอบโต้ด้วยอาวุธหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทยที่ได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิดดังสนั่นอย่างชัดเจน และยังสามารถมองเห็นกลุ่มควันจากจุดปะทะได้อีกด้วย

ความรุนแรงของการสู้รบส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนชาวเมียนมาในหมู่บ้านมอพาซู ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการปะทะ กว่า 233 ชีวิต ประกอบด้วย เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้หญิง ตัดสินใจทิ้งบ้านเรือนของตนเองเพื่อหนีเอาชีวิตรอด พวกเขาได้อพยพข้ามแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นแนวพรมแดนธรรมชาติ เข้ามาขอหลบภัยชั่วคราวในพื้นที่สำนักสงฆ์บ้านห้วยปลากอง อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก

ทันทีที่ผู้อพยพชาวเมียนมาเดินทางมาถึงฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ได้ร่วมกันเข้าดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องที่พักพิงชั่วคราว อาหาร และน้ำดื่ม ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบในฝั่งเมียนมาที่ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และมีเสียงปืนเสียงระเบิดดังเข้ามาเป็นระยะ.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *