‘ฮาร์ท สุทธิพงศ์’ โล่ง! อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ม.112 ปมวิจารณ์วัคซีน

ปิดฉากคดีที่ยืดเยื้อมายาวนานกว่า 3 ปี สำหรับนายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท อดีตนักร้องและพิธีกรชื่อดัง หลังจากที่ล่าสุด อัยการได้มีคำสั่ง ‘ไม่สั่งฟ้อง’ ในคดีมาตรา 112 ซึ่งสืบเนื่องมาจากการโพสต์ข้อความวิจารณ์การจัดการวัคซีนโควิดของรัฐบาลเมื่อปี 2564

เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2564 นายสุทธิพงศ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 และวัคซีนของรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งต่อมาข้อความดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นนำไปสู่การฟ้องร้อง

ผู้ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีคือ นายอภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ซึ่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีกับนายสุทธิพงศ์ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

คดีนี้ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล โดยศาลได้รับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ483/2567 ซึ่งนายสุทธิพงศ์ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงิน 2 แสนบาท และศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568 นายสุทธิพงศ์ หรือ ฮาร์ท ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อแจ้งความคืบหน้าและผลของคดีนี้ให้สาธารณชนทราบ โดยระบุว่า คดีนี้ถูกฟ้องโดยคณะทำงานตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ที่ สน.นางเลิ้ง จากการโพสต์วิจารณ์การจัดการวัคซีนโควิด

ในปี พ.ศ. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป และเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา นายสุทธิพงศ์ได้รับการแจ้งจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ว่า ทางสำนักงานอัยการมีความเห็น ‘ไม่สั่งฟ้อง’ ในคดีนี้ และให้ตนเดินทางไปรับเอกสารที่ บก.ปอท.

ในโพสต์ดังกล่าว นายสุทธิพงศ์ได้กล่าวขอบคุณอย่างสูงต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านที่ปรึกษาทางกฎหมาย และมอบหมายให้นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง เป็นตัวแทนในการต่อสู้คดีและดำเนินการทางกฎหมายมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาราว 4 ปี

การไม่สั่งฟ้องของอัยการในคดีนี้ ถือเป็นการยุติข้อพิพาททางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนายสุทธิพงศ์ในประเด็นนี้ ทำให้เจ้าตัวรู้สึกโล่งใจและแสดงความขอบคุณต่อผู้มีส่วนช่วยเหลือในกระบวนการยุติธรรมครั้งนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *