รัฐบาลเตือนผู้ปกครอง! รับมือ 5 โรคยอดฮิตในเด็กเล็กช่วงหน้าฝน เปิดเทอมนี้ต้องระวัง

รัฐบาลห่วงใยสุขภาพเด็กเล็ก เตือนผู้ปกครองให้เตรียมรับมือ 5 โรคยอดฮิตที่มักมาพร้อมกับฤดูฝนในช่วงเปิดเทอม แนะหมั่นสังเกตอาการบุตรหลาน หากพบความผิดปกติให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความห่วงใยของรัฐบาลต่อสุขภาพของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญอย่างการเปิดภาคเรียนใหม่ ซึ่งปีนี้ตรงกับช่วงต้นฤดูฝนพอดี สภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงและมีความชื้นสูงขึ้นนี้ เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อโรคหลายชนิด ทำให้เด็กเล็กซึ่งเป็นวัยที่ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ มีความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคระบาดเพิ่มสูงขึ้น

นายคารม กล่าวว่า โรคที่มักพบได้บ่อยในเด็กเล็กช่วงฤดูฝนและเปิดเทอมนี้ ส่วนใหญ่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคติดต่อผ่านการสัมผัส และกลุ่มโรคที่มียุงเป็นพาหะ โดยมี 5 โรคหลักๆ ที่ผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่:

  • 1. โรคมือ เท้า ปาก: มักพบในเด็กต่ำกว่า 5 ปี ติดต่อจากการสัมผัสโดยตรง อาการคือมีไข้สูง เจ็บคอ มีแผลในปาก และมีผื่นหรือตุ่มน้ำที่มือ เท้า และอาจลามไปถึงก้นและข้อพับ บางสายพันธุ์อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่อสมอง กล้ามเนื้อ หรือหัวใจได้
  • 2. โรคไข้หวัดใหญ่: รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา มีอาการไข้สูงฉับพลัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย หากไม่ได้รับการรักษาหรือมีภาวะแทรกซ้อน อาจนำไปสู่ปอดบวมหรือสมองอักเสบได้
  • 3. โรคปอดบวม: มักเป็นการติดเชื้อที่ลุกลามมาจากระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด อาการเด่นคือไอมีเสมหะ หายใจเร็ว หายใจลำบาก หรือหายใจหอบเหนื่อย ในเด็กเล็กอาจสังเกตเห็นอกบุ๋มขณะหายใจ หรือมีเสียงหายใจผิดปกติ ในรายที่อาการหนักมาก ริมฝีปากอาจมีสีเขียวคล้ำจากการขาดออกซิเจน
  • 4. โรคตาแดงจากไวรัส: เป็นโรคที่ติดต่อกันง่ายมากจากการสัมผัส เด็กจะมีอาการตาแดง เคืองตามาก น้ำตาไหล มีขี้ตามาก อาจมีอาการปวดตาร่วมด้วย
  • 5. โรคไข้เลือดออก: มียุงลายเป็นพาหะ อาการในช่วงแรกคือมีไข้สูงลอย กินยาไม่ลง ติดต่อกันหลายวัน ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีจุดเลือดออกเล็กๆ สีแดงตามผิวหนัง ช่วงที่ต้องระวังมากคือระยะที่ไข้เริ่มลดลง เพราะเป็นช่วงที่อาจเกิดภาวะช็อกได้ง่าย บางรายอาจมีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด

นายคารม ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ปกครองจะต้องหมั่นสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติที่เข้าข่ายโรคเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ การป้องกันโรคระบาดในช่วงนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลขอแนะนำให้ผู้ปกครองเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับบุตรหลาน โดยการให้เด็กๆ ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน และให้เด็กพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงต่อวัน

ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมสุขภาพ ควรพาบุตรหลานไปรับวัคซีนป้องกันโรคตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไข้เลือดออก (สำหรับเด็กโต) และวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก (ถ้ามีตามความเหมาะสม) ขณะเดียวกัน การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลก็สำคัญอย่างยิ่ง สอนให้เด็กๆ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์เมื่ออยู่นอกบ้าน สอนให้ใช้ช้อนกลาง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น การสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชนแออัดก็ยังคงเป็นมาตรการป้องกันที่ดี

การดูแลเอาใจใส่และเตรียมความพร้อมเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยของเด็กๆ ในช่วงฤดูฝนและเปิดเทอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกหลานของเรามีสุขภาพแข็งแรง พร้อมสำหรับการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่างๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *