สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล ครบ 6 เดือน โดยนโยบาย ’30 บาทรักษาทุกที่’ ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ร้อยละ 71.6 ตามมาด้วยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ‘เงินหมื่น’ ที่ร้อยละ 55.8

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ เกี่ยวกับความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานของรัฐบาล หลังจากบริหารราชการแผ่นดินครบ 6 เดือน พบว่า มีหลายประเด็นที่ประชาชนให้ความพึงพอใจในระดับสูง

นโยบายรัฐบาลที่ประชาชนพึงพอใจสูงสุด (มากถึงมากที่สุด) 5 อันดับแรก:

• นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่: ร้อยละ 71.6
• โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินหมื่น: ร้อยละ 55.8
• กฎหมายสมรสเท่าเทียม: ร้อยละ 41.3
• การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า-พลังงานแก่ประชาชน: ร้อยละ 32.6
• การส่งเสริมการท่องเที่ยว: ร้อยละ 30.3

เมื่อพิจารณาตามรายภาค ประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแสดงความพึงพอใจในสัดส่วนสูงที่สุดที่ร้อยละ 40.1 รองลงมาคือ ภาคเหนือ ร้อยละ 28.5, ภาคกลาง ร้อยละ 24.7, ภาคใต้ ร้อยละ 20.1 และกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 14.7

ในกลุ่มอายุ ประชาชนกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป มีความพึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุดสูงกว่ากลุ่มอายุอื่นที่ร้อยละ 31.5

การให้บริการของภาครัฐที่ประชาชนพึงพอใจ (มากถึงมากที่สุด) 5 อันดับแรก:

• ไฟฟ้า: ร้อยละ 66
• น้ำประปา: ร้อยละ 59.7
• ถนนหนทาง: ร้อยละ 55.1
• การบริการสาธารณสุข: ร้อยละ 52.2
• การจัดเก็บขยะมูลฝอย: ร้อยละ 46.4

นายจิรายุกล่าวเสริมว่า จากผลสำรวจ ประชาชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเร่งด่วนใน 5 อันดับแรก ได้แก่ การควบคุมราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค (ร้อยละ 86.7), ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อเนื่อง (ร้อยละ 67.5), แก้ปัญหายาเสพติด (ร้อยละ 43.0), แก้ปัญหาหนี้สิน (ร้อยละ 35.5) และเพิ่มสวัสดิการ (ร้อยละ 30.3)

สำหรับช่องทางที่ประชาชนสนใจติดตามข่าวสารมากที่สุดคือ โทรทัศน์ (ร้อยละ 68.4), รองลงมาคือ สื่อสังคมออนไลน์ (ร้อยละ 59.6) และญาติหรือคนรู้จัก (ร้อยละ 16.9)

โฆษกรัฐบาลยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าของบางโครงการ เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” สำหรับลูกหนี้รายย่อย มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 1.3 ล้านบัญชี และโครงการแก้ปัญหายาเสพติด “ท่าวังผาโมเดล และธวัชบุรีโมเดล” ได้ Re X-Ray ไปแล้วกว่า 1 ล้านราย นอกจากนี้ โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” มีผู้ลงทะเบียนกว่า 2.5 แสนราย และผ่านเกณฑ์พร้อมกู้กว่า 1.3 แสนราย โดยคาดว่าจะก่อสร้างได้ในปี 2568 และเข้าอยู่ได้ในปี 2570