กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงข้อห่วงใยของรัฐบาลต่อสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทย โดยเฉพาะการพบยาเสพติดรูปแบบใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว นั่นคือยาเสพติดที่มีการผลิตและปั๊มเป็นรูปตัวการ์ตูน หรือที่รู้จักกันในชื่อเรียก ‘อาร์ตทอยลาบูบู้’ ซึ่งพบการระบาดอย่างชัดเจนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

นายอนุกูล กล่าวเน้นย้ำเตือนถึงอันตรายร้ายแรงของยาเสพติดชนิดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวที่อาจใช้ยาเสพติดเพื่อแสวงหาความมึนเมาหรือเพิ่มความสนุกสนาน ยาเสพติด ‘อาร์ตทอยลาบูบู้’ นี้มีส่วนผสมของยาที่มีฤทธิ์กดประสาทอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์กันในร่างกาย ซึ่งหากใช้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะยิ่งเสริมฤทธิ์ให้รุนแรงมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

ผลกระทบที่รุนแรงและอันตรายถึงชีวิตคือ ฤทธิ์กดประสาทดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดภาวะกดการหายใจ ระบบหัวใจล้มเหลว และนำไปสู่การเสียชีวิตได้ มีรายงานยืนยันว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติด ‘อาร์ตทอยลาบูบู้’ แล้วถึง 2 ราย และมีอีก 1 รายที่อาการสาหัสจนต้องเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยหนัก (ICU)

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น นอกเหนือจากผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแล้ว การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดยังมีความผิดตามกฎหมายของประเทศไทยซึ่งมีบทลงโทษรุนแรง

บทลงโทษตามกฎหมายยาเสพติด:

• การผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 1 (ซึ่งยาเสพติด ‘อาร์ตทอยลาบูบู้’ น่าจะเข้าข่าย) โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี และปรับไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
• การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ใช่เพื่อจำหน่าย (ในปริมาณเล็กน้อยตามที่กฎหมายกำหนด) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
• การเสพยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายอนุกูล กล่าวปิดท้ายว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งและตระหนักดีว่าปัญหายาเสพติดส่งผลกระทบในทุกมิติของสังคม จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลานและบุคคลใกล้ชิด รวมถึงเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะแส หากพบสิ่งผิดปกติ หรือสิ่งของที่เข้าข่ายเป็นยาเสพติดรูปแบบดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงที่มีการรวมกลุ่มหรือจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เทศกาลท่องเที่ยว

ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดได้ที่ สายด่วน 1386 ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตลอด 24 ชั่วโมง

รัฐบาลได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ ให้เร่งดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องต่อไป เพื่อปกป้องสังคมไทยให้ปลอดภัยจากภัยยาเสพติด โดยเฉพาะรูปแบบใหม่ที่พยายามเข้าถึงกลุ่มเยาวชนและประชาชน