กรุงเทพฯ – นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พ.ค.68 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 76.75 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือคิดเป็น 1.99% จากเดือน เม.ย.68 ที่ระดับ 75.25 จุด

ปัจจัยที่หนุนให้ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้น มาจากหลายประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่, ทิศทางนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ, ความตึงเครียดของสงครามการค้า, และความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวหรือถดถอย

ด้านความต้องการซื้อทองคำในเดือน พ.ค.68 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างประชาชนจำนวน 344 ราย พบว่า มี 152 ราย (44%) คาดว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้ ส่วนอีก 104 ราย (30%) ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ และ 88 ราย (26%) คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำ

สำหรับมุมมองของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 12 ราย พบว่า ส่วนใหญ่ถึง 7 ราย (58%) เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน พ.ค.68 จะลดลง ขณะที่ 3 ราย (25%) คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาในเดือน เม.ย.68 และมีเพียง 2 ราย (17%) ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

การคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน พ.ค.68 โดยผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ มีดังนี้

• ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot): ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 3,136 – 3,434 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
• ราคาทองคำแท่งในประเทศ ความบริสุทธิ์ 96.5%: ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 49,800 – 53,700 บาท ต่อบาททองคำ
• ค่าเงินบาท: ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 32.29 – 34.01 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ การลงทุนทองคำในเดือน พ.ค.68 คาดว่าตลาดยังคงเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ, สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ, ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์, รวมถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ แม้ในเดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำจะย่อตัวลง แต่ยังคงมีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนที่ยังเชื่อมั่นในบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงเดือนนี้ ศูนย์วิจัยทองคำแนะนำให้เน้นลงทุนในระยะสั้น โดยใช้ระดับแนวรับแนวต้านเป็นกรอบในการตัดสินใจลงทุน สิ่งสำคัญคือนักลงทุนควรวางแผนอย่างรอบคอบ มีการบริหารความเสี่ยง และพร้อมปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว