กูรูฟันธง! ราคาทองคำปีนี้มีลุ้นแตะ 60,000 บาท – แนะจังหวะ ‘เก็บ’ ช่วงปรับฐาน
นางภัทริน วชิรคพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ว่า มีโอกาสที่ราคาทองคำในประเทศจะปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 60,000 บาทต่อบาททองคำได้ โดยปัจจัยหนุนมาจากแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้น ประกอบกับการอ่อนค่าของค่าเงินบาท
นางภัทริน กล่าวว่า ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ราคาทองคำในตลาดโลกได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 550 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ภายในเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ จากระดับต่ำสุดที่ 2,950 ดอลลาร์ ไปทำจุดสูงสุดที่ 3,500 ดอลลาร์ ปัจจัยหลักมาจากการคาดการณ์ผลกระทบจากประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับหลายประเทศทั่วโลก หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น แถลงว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า
อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวว่าหลายประเทศเริ่มมีการเจรจากับสหรัฐฯ ราคาทองคำได้ปรับลดลงจากจุดสูงสุด 3,500 ดอลลาร์ เหลือ 3,300 ดอลลาร์อย่างรวดเร็ว และลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 3,200 ดอลลาร์ภายในไม่กี่วัน ซึ่งการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในครั้งนี้ ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับฐานลงมาแรงเช่นกัน โดยประเมินแนวรับสำคัญไว้ที่ 3,240 ดอลลาร์ และมีโอกาสลดลงไปถึง 3,130 ดอลลาร์ได้
สำหรับราคาทองคำในประเทศนั้น จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในตลาดโลก และอัตราแลกเปลี่ยน โดยนางภัทริน ชี้แจงว่า การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในตลาดโลกทุกๆ 10 ดอลลาร์ จะกระทบต่อราคาทองคำไทยประมาณ 100 บาทต่อบาททองคำ ในขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจากปัจจุบันที่ประมาณ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พ.ค.) จะทำให้ราคาทองคำในประเทศลดลงประมาณ 1,000 บาทต่อบาททองคำ เมื่อเทียบกับราคาในตลาดโลกที่คงที่
นางภัทริน ให้คำแนะนำว่า หากราคาทองคำมีการปรับฐานลงมามาก ถือเป็นจังหวะที่ดีเยี่ยมในการทยอยเข้าซื้อสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสดระยะยาวเพื่อการลงทุนในทองคำ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาและมีผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไป ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งประเมินว่ามีโอกาสที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนมิถุนายนนี้ หากเกิดขึ้นจริง จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ นอกจากนี้ ผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หากเป็นไปในทิศทางบวก อาจส่งผลกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงได้
อีกปัจจัยที่น่าสนใจคือ การกลับมาเปิดทำการของตลาดจีนในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ หลังจากหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม หากมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด อาจส่งผลให้ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นมาได้
สรุปแล้ว ในปีนี้ นางภัทริน ประเมินว่าราคาทองคำในตลาดโลกอาจแตะระดับสูงสุดหรือมากกว่า 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศมีโอกาสพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับ 60,000 บาทต่อบาททองคำได้