สว.สำรอง จี้ กกต. เบรก ‘ฐิติเชษฏฐ์’ พ้นพิจารณาคดีฮั้ว สว. เหตุถูกโยงคดีสินบนอดีตผู้ว่าฯ สตง.
กลุ่มผู้มีรายชื่อเป็น สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 เพื่อติดตามความคืบหน้าประเด็นร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว. ปี 2567 และขอให้ กกต. ทบทวนคำวินิจฉัยบางประเด็น รวมถึงพิจารณาให้กรรมการ กกต. ท่านหนึ่ง ยุติการร่วมพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว. โดยเฉพาะคดี “ฮั้ว สว.”
ข้อเรียกร้องสำคัญคือ การขอให้ กกต. พิจารณาให้ นายฐิติเชษฏฐ์ นุชนาฎ กรรมการ กกต. ได้หยุดหรือพักออกจากการร่วมพิจารณาในคดี “ฮั้ว สว.” ที่ทาง กกต. กำลังทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากมีประเด็นที่ นายฐิติเชษฏฐ์ ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินสินบน
พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ตัวแทนกลุ่ม สว.สำรอง เปิดเผยว่า ได้รับทราบข้อมูลว่าคณะอนุกรรมการร่วมระหว่าง กกต. กับ ดีเอสไอ ในคดี “ฮั้ว สว.” กำลังจะสรุปสำนวนเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ให้สัมภาษณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม สว.สำรอง มีข้อกังวลใจอย่างยิ่ง เนื่องจาก นายฐิติเชษฏฐ์ นุชนาฎ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการ กกต. ที่จะต้องพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว มีชื่อถูกกล่าวหาว่าไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในการวิ่งเต้นและสอบเลื่อนตำแหน่ง โดยมีรายงานว่ามีการจ่ายเงินจำนวน 300,000 บาท ซึ่งคดีนี้ถูกแจ้งความโดยอดีตผู้ว่าฯ สตง. ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ (สน.บางซื่อ) เมื่อเดือนมีนาคม 2567 และมีการบันทึกประจำวันระบุชัดเจนว่า นายฐิติเชษฏฐ์ เป็นผู้ต้องหาคนที่ 1
พล.ต.ท.คำรบ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 10 (24) กำหนดไว้ว่า กรรมการ กกต. จะต้องไม่มีพฤติการณ์อันไม่เป็นการฝ่าฝืนการปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งการถูกโยงในคดีทุจริตลักษณะนี้ ทำให้เกิดความไม่สบายใจ
กลุ่ม สว.สำรอง เกรงว่า การที่กรรมการ กกต. ที่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตยังคงร่วมพิจารณาคดีสำคัญอย่างคดีเลือกตั้ง อาจทำให้เกิดคำถามเรื่องความสง่างาม ความน่าเชื่อถือ และความเที่ยงธรรมในการวินิจฉัยคดีต่างๆ ในอนาคตได้ จึงอยากให้ กกต. ที่เหลืออยู่ได้โปรดพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือขององค์กร