GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำปี 2568 มีลุ้นทุบสถิติใหม่ แตะ 55,300 บาท รับเศรษฐกิจโลกเปราะบาง

กรุงเทพฯ วันที่ 23 เมษายน 2568 – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยบทวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับทิศทางราคาทองคำในปี 2568 โดยคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ทั้งในตลาดโลกและตลาดในประเทศ

น.ส.อารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ของ GCAP GOLD ระบุว่า ราคาทองคำในปี 2568 ได้ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระบบเศรษฐกิจโลกที่เผชิญกับความเปราะบางรอบด้าน ทั้งความผันผวนของตลาดทุน การเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบายของรัฐบาลมหาอำนาจ และความไม่แน่นอนในแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากหันกลับมาให้ความสำคัญกับทองคำในฐานะสินทรัพย์หลัก ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือกระจายความเสี่ยงอีกต่อไป

สัญญาณจากตลาดบ่งชี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อยังคงไม่สามารถควบคุมได้อย่างชัดเจน ประกอบกับความเชื่อมั่นในสกุลเงินหลักที่ลดลง กำลังกระตุ้นให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ การที่ราคาทองคำทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ อาจไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการปรับขึ้น แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของตลาดที่มักจะสะท้อนความเสี่ยงล่วงหน้า (price in) ในราคา

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน น.ส.อารีรัตน์ แนะนำว่า โครงสร้างราคาปัจจุบันยังคงแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งการพักตัวใดๆ ที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงการพักตัวในแนวโน้มขาขึ้นเท่านั้น

แนวรับระยะสั้นภายในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 3,285 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และ 3,225-3,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งคิดเป็นราคาทองคำแท่งในประเทศประมาณ 51,700 บาท และ 50,800 บาท ตามลำดับ ส่วนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 3,485 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และ 3,552 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งแปลงเป็นราคาทองคำแท่งไทยได้ประมาณ 54,500 บาท และ 55,300 บาท ตามลำดับ

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้นคือ ให้พิจารณาใช้จังหวะที่ราคาย่อตัวลงเพื่อสะสมทองคำตามแนวรับ ขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาว ควรพิจารณาถือครองทองคำในสัดส่วน 10-15% ของพอร์ตการลงทุน

นอกจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแล้ว GCAP GOLD ยังเน้นย้ำให้ติดตามประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แสดงความลังเลในการขึ้นภาษีจีน ซึ่งอาจกระทบต่อการค้า แต่ขณะเดียวกันก็ประกาศเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือสำหรับสินค้าที่เข้าเทียบท่าในสหรัฐฯ ในอัตราที่สูง นอกจากนี้ การเจรจายุติโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และราคาทองคำได้เช่นกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *