จากกรณีดาราสาว คะน้า ริญญารัตน์ ออกมาแฉว่า นายฮอต อดีตแฟนหนุ่ม อ้างเป็นไฮโซ และแอบอ้างเบื้องสูง คนดัง รวมถึงนักการเมืองต่างๆ มาหลอกให้รัก ก่อนขอแต่งงาน ทั้งที่คบหากันได้ราวเดือนเศษ สุดท้ายงานแต่งงานล่ม หลังจับได้ฝ่ายชายมีโลก 2 ใบ และทองคำหนัก 50 บาท และแหวนเพชรอีก 4 กะรัตที่เอามาหมั้นกลายเป็นทองปลอม จึงเชื่อว่าคนๆ นี้ เป็นมิจฉาชีพ จึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดให้เป็นอุทาหรณ์

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 8 เม.ย.68 ในรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย เชิญดาราสาว คะน้า ริญญารัตน์ พร้อม กัน จอมพลัง อัพ พชรพรรษ์ อดีตเจ้านายไฮโซเก๊ และคุณเอ เพื่อนของภรรยาไฮโซเก๊ มาเปิดใจ

อัพ พชรพรรษ์ กล่าวว่า นายฮอตจะอ้างว่าตัวเองเป็นคนนามสกุลดัง และเป็นทายาทของผู้ก่อตั้งโรงเรียนดัง จึงตั้งมาเป็นรองเลขาฯ ขององค์กร เพื่อหวังช่วยประสานงานหน่วยงาน แต่ตั้งอยู่ไม่กี่เดือนก็ต้องปลดออก เพราะทำงานไม่ได้

“เรายังพบการเบิกจ่ายเงินออกไปโดยนายฮอต โดยไม่มีเหตุผล เป็นยอดเงิน 40,000 บาท และ 70,000 บาท ซึ่งเราเห็นก่อนเลยไม่อนุมัติ นอกจากนี้ยังเอาชื่อองค์กรไปแอบอ้างกับมหาวิทยาลัยชื่อดังด้วย เพื่อขอรับการบริจาคเงินจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ก่อนเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่างๆ ยืนยันได้ ผมไม่กลัวนายฮอตฟ้อง ก็ออกมาฟ้องสิครับ”

คะน้า เปิดใจว่า ก่อนมาออกเราก็ทำใจไว้แล้วจะเจอกระแสตีกลับว่าเราคบเพราะรวยเหรอ แต่อยากให้ทุกคนมองที่เจตนาของเราที่ออกมาเปิดเผย เมื่อเราออกมาเปิดก็มีหลายคนที่กล้าสู้มากขึ้น เพื่อให้เหยื่อออกมาสู้มากขึ้น ไม่ให้มันลอยนวล

“ตอนรู้มีคนหวังดีส่งข้อมูลมาให้ว่านายฮอตมีภรรยาเป็นหมออยู่แล้ว โดยเราก็ได้คุยกับคุณหมอ โดยหมอดีเอ็มมาหาและอยากเจอ แต่เราไม่กล้าไปเจอ เพราะกลัวเป็นพวกเดียวกัน ก่อนโทร.คุยกันว่าเสียหายอะไรบ้าง โดยหลอกเหมือนกัน และอยากได้ของที่นายฮอตเอามาให้ เพราะน่าจะเป็นเงินที่หลอกคุณหมอมา โดยเราขอตรวจสอบแหวนและทองก่อน เราไม่มีเจตนาจะเก็บไว้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้หมอกับนายฮอตก็ยังอยู่ด้วยกัน โดยหมอบอกว่าอยากเก็บคนร้ายไว้ใกล้ตัวจะปลอดภัยที่สุด”

“เราเชื่อว่านายฮอตต้องการรีดทรัพย์มากกว่า ไม่ได้อยากต้องการแต่งงานกับเราจริงๆ โดยอ้างเรื่องเงินสีเทาของเราและแฟนเก่าขึ้นมาแอบอ้าง”

คุณเอ เพื่อนของภรรยาไฮโซเก๊ เปิดใจว่า ก่อนหน้านี้เราสนิทกับภรรยาไฮโซเก๊มาก แต่ตั้งแต่นายฮอตเข้ามาในชีวิตเพื่อนหนู เพื่อนก็เลิกคบหนูเลย เนื่องจากกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน ไปหาข้อมูลของนายฮอตมาตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้ว จนทราบว่าเป็นมิจฉาชีพ เพราะตอนที่เพื่อนแนะนำให้รู้จักนายฮอตก็รู้สึกว่าไม่ใช่คนรวย

คุณเอ เปิดใจว่า กรณีของเพื่อนคล้ายกับคุณคะน้า โดยเล่นแอพหาคู่หลังเลิกกับแฟน ก่อนมาเจอนายฮอตที่อ้างว่าตัวเองรักสัตว์และช่วยสัตว์พิการ จึงคุยกันมาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้หมอก็แนะนำให้เพื่อนรู้จัก ซึ่งเราก็เอะใจและนำชื่อนายฮอตไปให้ลุงของเพื่อนที่เป็นตำรวจช่วยตรวจสอบ ก่อนทราบว่าเป็นมิจฉาชีพ มีหมายคดีติดตัว และเปลี่ยนชื่อถึง 5 ครั้ง เราก็คิดจะบอกเพื่อนที่เป็นหมอยังไงดี จึงไปคุยกับพ่อของเพื่อน พ่อของเพื่อนก็ขอบคุณมาก

“ผ่านมาอีก 2 วัน พ่อของหมอให้ญาติมาดู ก็พบนายฮอตยังอยู่ที่บ้านของหมอ ก่อนพ่อ ญาติและตำรวจก็บุกมาที่บ้านเลย โดยเอาหมายคดีทั้งหมดมาให้ดู พ่อของหมอก็บอกว่าออกไปจากชีวิตลูกเดี๋ยวนี้ ก่อนนายฮอตไปอยู่ในคุก 2 วัน เพราะมีหมายจับ จากนั้นหมอกลับมาถึงบ้าน พ่อและญาติจึงอธิบายให้ฟัง ทำให้หมอร้องไห้เสียใจ เราและเพื่อนก็ยินดี แต่ผ่านไป 2 วัน หมอเป็นคนไปประกันตัวนายฮอต ทำให้เราและพ่อของหมอตกใจ หมอก็บอกเป็นคดีเก่า ตอนนี้นายฮอตปรับตัวเป็นคนใหม่แล้ว ก่อนนายฮอตและหมอก็อยู่ด้วยกันที่บ้าน เพราะนายฮอตสัญญาจะแต่งงาน จะซื้อบ้าน 20 บ้านให้”

ตอนอยู่ด้วยกัน นายฮอตจะชอบหายไปหลังบ้าน อ้างโทร.คุยกับนายอยู่ เราจึงถามเพื่อนว่ารู้ได้ไงว่ารวย หมอจึงเล่าให้ฟังว่าเคยเห็นเงินในบัญชีมีเงิน 100 กว่าล้าน แถมยังเขียนพินัยกรรมให้ด้วย โดยตอนหมั้นกัน นายฮอตจะโชว์มีทองเป็นแผงเหมือนกัน แถมยังอ้างเบื้องสูงและคนดังในการเมือง โดยยังอ้างว่าเคยโดนลอบยิงด้วย

“นายฮอตไม่มีรถเป็นของตัวเอง ตอนนี้ยังใช้รถญี่ปุ่นของเพื่อนหนูอยู่เลย ก่อนหน้านี้ก็นั่งแต่วินจยย. แต่พอมาถึงกรณีคะน้า อ้างมีรถหรูหลายคัน”