อดีต สส.เพื่อไทย ชี้ ‘ทักษิณ’ ศักยภาพสูง ควรใช้เจรจา ‘ทรัมป์’ ฝ่าวิกฤตภาษีสหรัฐฯ วอนสังคมก้าวข้ามขัดแย้ง

อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ระบุ “ทักษิณ ชินวัตร” มีศักยภาพและคอนเน็กชั่นส่วนตัวที่ดีกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ควรใช้เป็นช่องทางเจรจาแก้ปัญหากำแพงภาษีและวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ วอนทุกฝ่ายเลิกติดกับดักความขัดแย้งในอดีต หันมาใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ต่อชาติ ยันที่ผ่านมา ทักษิณ ไม่ได้คิดหนีออกนอกประเทศแต่อย่างใด

วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 นายวรชัย เหมะ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นกรณีที่มีภาพของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ปรากฏขณะทักทายกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างการพยายามเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหารือและแก้ไขปัญหากำแพงภาษีที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย

นายวรชัย กล่าวว่า ตนเห็นภาพดังกล่าวแล้วรู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะภาพที่น่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย คือควรจะมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ร่วมอยู่ในการทักทายและพูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมหาศาลต่อการแก้ไขปัญหากำแพงภาษีและประเด็นทางเศรษฐกิจอื่นๆ กับทางสหรัฐอเมริกา

อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ย้ำว่า นายทักษิณ ชินวัตร มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ มาก่อน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า การที่นายทักษิณเคยแสดงความประสงค์ที่จะขอไปพบนายทรัมป์นั้น เป็นเรื่องจริงที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการเจรจา ไม่ได้มีแนวคิดที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการหลบหนีออกนอกประเทศตามที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้

นายวรชัย กล่าวต่อไปว่า นายทักษิณถือเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถ และมีคอนเน็กชั่นกับต่างประเทศในระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้น นายทักษิณยังมีความเต็มใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือและใช้ศักยภาพของตนเองเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ ประเทศไทยยังคงติดกับดักอยู่กับเรื่องราวเดิมๆ ความขัดแย้งเก่าๆ ในอดีต และไม่ยอมก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้ ทำให้เราไม่ได้ใช้ศักยภาพอันมีค่าของบุคคลอย่างนายทักษิณให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

“ฉะนั้น วันนี้ ขอให้ทุกฝ่ายในสังคมไทยมองข้ามความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา เพื่อที่จะก้าวข้ามวิกฤตของชาติที่กำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกา เรื่องสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก หรือแม้แต่ปัญหาหนี้สินของประเทศ ทั้งหนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง” นายวรชัย กล่าว

นายวรชัย ยังได้เรียกร้องทิ้งท้ายว่า “ขอให้ทุกคนในชาติจับมือสามัคคีกัน มองไปข้างหน้า และใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่ประเทศมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพของบุคคลที่มีความสามารถ หรือศักยภาพด้านทรัพยากรอื่นๆ เพื่อร่วมกันแก้วิกฤตของประเทศให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพื่ออนาคตของลูกหลานไทย”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *