รมว.ต่างประเทศเยี่ยมครอบครัวแรงงานไทยเหยื่อความรุนแรงในอิสราเอล พร้อมตรวจด่านช่องสายตะกูขยายโอกาสการค้าชายแดน
วันที่ 10 เมษายน 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเยี่ยมครอบครัวของนายนิสันต์ มีรัมย์ แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงในอิสราเอล เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
ในการนี้ รมว.ต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าการเจรจากับรัฐบาลอิสราเอล ซึ่งยืนยันจะให้ความช่วยเหลือและมอบสิทธิประโยชน์แก่ครอบครัวนายนิสันต์อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ทั้งเงินช่วยเหลือรายเดือนและประจำปี แก่มารดา ภรรยา และบุตรของเหยื่อ
“การมาเยี่ยมครอบครัวในครั้งนี้ นอกจากเพื่อให้กำลังใจแล้ว ยังต้องการแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ครอบครัวจะได้รับ” นายมาริษกล่าว พร้อมย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาตลอด
ในช่วงเช้าวันเดียวกัน คณะของรมว.ต่างประเทศยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ
ข้อมูลระบุว่า มูลค่าการค้าชายแดนที่ช่องสายตะกูในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 60 ล้านบาท และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่าการค้าแล้วกว่า 11 ล้านบาท โดยรวมแล้วมูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งปี 2567 สูงถึง 180,000 ล้านบาท
รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า ช่องสายตะกูเป็นประตูโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน ซึ่งจะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคเพื่อนำไปสู่การแก้ไขและพัฒนาต่อไป