ปิดคดีสะเทือนขวัญ! รวบ 2 ผู้ต้องหาสุดท้ายแก๊งฆ่าเผานั่งยาง ‘โกเชษฐ์’ ครบแก๊ง ยอมมอบตัวบนเขา
ตรัง – ตำรวจปิดคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มที่จังหวัดตรังได้แล้ว หลังระดมกำลังเข้าปิดล้อมบนภูเขา รวบตัว 2 ผู้ต้องหาที่เหลือ คือ ‘ไอ้แจ็ก’ มือยิง และ ‘ไอ้เถือก’ คนช่วยจัดหายาง ครบทั้งแก๊งที่ร่วมก่อเหตุ ขณะที่ ‘ไอ้แจ็ก’ ถูกเปิดเผยพฤติกรรมสุดเหี้ยม บังคับเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีเมียก่อนลงมือยิงทิ้งอย่างเลือดเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เกี่ยวกับการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรมโหด เผานั่งยาง นายสุรเชษฐ์ หรือ โกเชษฐ์ อายุ 69 ปี พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ 1 ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับประชาชนในพื้นที่และทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 2 คน คือ นายศุภกรณ์ หรือ ไอ้บิน ควนกุน ซึ่งจากการสอบสวน ไอ้บิน ได้ให้การรับสารภาพว่า นอกจากคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพนี้แล้ว ตนเองยังได้ลงมือฆ่านายศุภฤกษ์ หรือกาด อายุ 37 ปี อีกศพ และนำไปฝังดินไว้ห่างจากจุดที่เผา 3 ศพ ประมาณ 300 เมตร ส่วนอีกคนคือ นายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้เช่นกัน
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เข้าปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่บนภูเขา ในบริเวณบ้านเขาหลัก ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ภายหลังสืบทราบว่า นายปิยะศักดิ์ หรือแจ็ก และ นายระพีพันธุ์ หรือเถือก 2 ผู้ต้องหาสำคัญที่ยังคงหลบหนีอยู่ในขณะนั้น ได้มาซ่อนตัวอยู่บนภูเขาแห่งนี้
การปฏิบัติการปิดล้อมเป็นไปอย่างรัดกุม จนในที่สุด ผู้ต้องหาทั้งสองคน คือ นายปิยะศักดิ์ หรือแจ็ก และ นายระพีพันธุ์ หรือเถือก ได้ตัดสินใจยอมมอบตัวแต่โดยดี โดยเดินชูมือลงมาจากภูเขา ซึ่งทั้งสองคนได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกับผู้ต้องหาทั้งสอง ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง, ร่วมกันพกพาอาวุธปืน และยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมทันที
จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า นายปิยะศักดิ์ หรือไอ้แจ็ก นี่เอง ที่เป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงนายสุรเชษฐ์ หรือโกเชษฐ์ พร้อมกับลูกน้องทั้งสองคน ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสามไปวางไว้บนไม้ฟืนที่พาดอยู่ระหว่างร่องน้ำในสวนปาล์มน้ำมันซึ่งมีความลึกเกือบ 2 เมตร จากนั้นได้ใช้ยางรถยนต์จำนวนมากสุมไว้ที่ด้านล่าง แล้วทำการจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม และที่เลวร้ายไปกว่านั้น คือก่อนที่จะยิง หนึ่งในผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกน้องของโกเชษฐ์ ถูกบังคับขู่เข็ญให้โอนเงินจำนวน 4 หมื่นบาท เข้าบัญชีธนาคารของภรรยาของนายปิยะศักดิ์ ทั้งๆ ที่ผู้ตายพยายามร้องขอชีวิตและขอให้พาไปส่งโรงพยาบาล แต่นายปิยะศักดิ์กลับไม่สนใจคำอ้อนวอนเหล่านั้น และใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตในที่สุด ส่วนนายระพีพันธุ์ หรือเถือก มีบทบาทเป็นผู้ช่วยในการจัดหายางรถยนต์มาเพื่อใช้ในการเผาศพทั้ง 3 ศพ
ในวันเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรเขาวิเศษ เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการเบิกตัว นายจรณชัย หรือแต้ม ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ก่อนหน้านี้ ออกมาจากห้องขังเพื่อนำมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดย นายจรณชัย ได้ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ว่าเป็นผู้ที่นำผลปาล์มน้ำมันที่ขโมยมาไปขาย และเป็นผู้ที่ไปซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงยางรถยนต์ เพื่อนำมาใช้ในการเผาศพ
การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้ครบถ้วน ถือเป็นการปิดคดีสะเทือนขวัญนี้ลงได้ในที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคลี่คลายคดีอาชญากรรมร้ายแรง และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป