เฟดเตือน! มาตรการภาษีทรัมป์อาจซ้ำเติมเศรษฐกิจสหรัฐ ส่อเค้า “สแต็กเฟลชั่น” ครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี
เมื่อวันพุธที่ 16 เมษายน 2568 นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยในงานชมรมเศรษฐกิจแห่งชิคาโกว่ามาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้เฟดต้องเผชิญสถานการณ์ท้าทายที่สุดนับตั้งแต่ยุค “สแต็กเฟลชั่น” ในทศวรรษ 1970
“ระดับภาษีที่ประกาศใช้สูงเกินคาดอย่างมีนัยสำคัญ เราอาจต้องเลือกระหว่างควบคุมเงินเฟ้อกับกระตุ้นการจ้างงาน” นายพาวเวลล์กล่าว พร้อมย้ำว่าการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน
ภาษีถล่มทุกด้าน
ปัจจุบันสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่:
- อะลูมิเนียม-เหล็กกล้า 25% จากทุกประเทศ
- สินค้าเม็กซิโก-แคนาดาบางรายการ 25%
- สินค้าจีนสูงสุด 145%
- รถยนต์ผลิตนอกสหรัฐฯ 25%
- ภาษีนำเข้าฐาน 10% สำหรับสินค้าทั่วโลก
สัญญาณ “สแต็กเฟลชั่น”?
นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าหากมาตรการเหล่านี้ถูกบังคับใช้ต่อเนื่องจนถึงกรกฎาคม อาจเกิดภาวะเงินเฟ้อพุ่งควบคู่เศรษฐกิจถดถอย คล้ายวิกฤตทศวรรษ 1970 ที่อัตราเงินเฟ้อแตะ 2 หลัก ขณะที่ปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.3% สูงกว่าเป้าหมายเฟดเล็กน้อย
ทั้งนี้ เฟดยังคงยึดยุทธศาสตร์ “รอดูสถานการณ์” แต่ยอมรับว่าหากภาวะสแต็กเฟลชั่นเกิดขึ้นจริง อาจต้องใช้มาตรการรุนแรงเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ